จำหน่ายอุปกรณ์แต่งรถ

วันพฤหัสบดีที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2554

จับกัญชาอัดแท่ง 400 แท่งมูลค่ากว่า 16 ล้านบาท


เมื่อวันที่ 22 กันยายน 54 ที่ห้องประชุมชั้น 3 ภ.จว.ภูเก็ต นายตรี อัครเดชา ผวจ.ภูเก็ต พร้อมด้วย พล.ต.ต.พิกัด ตันติพงศ์ ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต พร้อมด้วยพ.ต.อ.กฤตภาส เดชอินทรศร ผกก.สภ.ฉลอง และเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม ได้ร่วมกันแถลงผลการจับกุมนายสมพงษ์ ถำอุทก อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 96/2 หมู่ 4 ต.ราไวย์ อ.เมือง จ.ภูเก็ต พร้อมด้วยของกลางกัญชาแห้งอัดแท่งจำนวน 400 แท่ง น้ำหนัก 400 กิโลกรัม โดยสามารถจับกุมได้ที่บริเวณวงเวียนห้าแยกฉลอง อ.เมือง ภูเก็ต และบ้านเลขที่ 24/5 หมู่ 1 ต.ราไวย์ อ.เมือง จ.ภูเก็ต ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีในข้อหาหามียาเสพติดให้โทษประเภท 5 (กัญชา) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย
ทั้งนี้พ.ต.อ.กฤตภาส เดชอินทรศร ผกก.สภ.ฉลอง ได้กล่าวว่า สำหรับการจับกุมในครั้งนี้สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนสภ.ฉลองได้รับแจ้งจากสายลับว่า นายสมพงษ์ มีพฤติกรรมในการจำหน่ายยาเสพติดในพื้นที่ตำบลราไวย์ จากนั้นทางเจ้าหน้าที่ก็ได้ทำการสืบสวนเพิ่มเติม จนกระทั่งทราบว่า ได้มีการลักลอบนำเข้ายาเสพติดล็อตใหญ่เข้าพื้นที่ จนกระทั่งเมื่อช่วงเย็นของวันที่ (21 ก.ย.) ที่ผ่านมา ทางเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมนายสมพงษ์ ถำอุทก อายุ 23 ปี ได้พร้อมกัญชาจำนวนหนึ่งที่ถนนบริเวณวงเวียนห้าแยกฉลอง ต.ฉลอง อ.เมือง จ.ภูเก็ต จึงได้ควบคุมจึงได้ทำการสอบสวน จากนั้นก็ได้นำตัวไปตรวจค้นที่บ้านพักเลขที่ 24/5 หมู่ 1 ต.ราไวย์ อ.เมือง จ.ภูเก็ต ซึ่งเป็นบ้านเดียว 2 ชั้น นอกจากนี้ยังมีห้องใต้ดิน โดยมีทางเข้าออกอยู่ใต้บันได จากการตรวจค้นภายในบ้าน 2 ชั้นไม่พบสิ่งของผิดกฎหมาย จากนั้นทางเจ้าหน้าที่ก็ได้เข้าไปตรวจค้นภายในห้องใต้ดิน พบกระสอบจำนวนมากวางอยู่ห้อง โดยมีผ้าห่มคลุมไว้ เมื่อเจ้าหน้าที่เปิดผ้าห่มออก เจ้าหน้าที่ถึงกับตะลึง ภายในบรรจุกัญชาอัดจำนวน 400 แท่ง น้ำหนัก 400 กิโลกรัม จากนั้นทางเจ้าหน้าที่นำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลาง ส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีต่อไป
ทั้งนี้จากการสอบสวนนายสมพงษ์ ถำอุทก ก็ให้การรับสารภาพว่า กัญชาทั้งหมดได้ซื้อมาจากเอเย่นต์ ซึ่งอยู่ทางภาคเหนือ และลักลอบขนมาทางรถยนต์ ผ่านด่านตรวจภูเก็ตเข้ามามา จากนั้นก็จะนำไปจำหน่ายในพื้นที่ราไวย์ และพื้นที่ใกล้เคียง
ด้านพล.ต.ต.พิกัด ตันติพงศ์ ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต ได้กล่าวว่า สำหรับการจับกับกัญชาในครั้งนี้ถือว่าเป็นรายใหญ่ที่สุดในรอบหลายปีของจังหวัดภูเก็ต ซึ่งยาเสพติดประเภทกัญชาไม่ใช้ยาเสพติดที่มีการแพร่ระบาดในพื้นที่ ส่วนยาเสพติดที่แพร่ระบาดในจังหวัดภูเก็ตเป็นยาประเภทยาบ้า และยาไอซ์ ซึ่งเรื่องนี้ทางเจ้าหน้าที่จะต้องเร่งสอบสวนขยายผลต่อไปถึงขั้นตอนการนำเข้า รวมถึงการติดตามจับกุมผู้ต้องหาที่ยังหลบหนี และเชื่อว่ากัญชาล็อตนี้น่าจะใช้ภูเก็ตเป็นที่พักยาก่อนที่จะส่งไปขายที่อื่นมากกว่า สำหรับมูลค่าของกัญชาล็อตนี้ถ้าหากแบ่งขายจะมีมูลค่ากว่า 16 ล้านบาท
ขณะที่นายตรี อัครเดชา ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า เรื่องของยาเสพติดถือเป็นปัญหาสำคัญที่ทางรัฐบาลได้กำหนดไว้ และทางจังหวัดได้รับนโยบายนำมาปฏิบัติ พร้อมทั้งให้ทางภ.จว.ภูเก็ตสั่งการณ์ลงไปทุกพื้นที่ ให้มีการกวดขัน และกวาดล้างยาเสพติดให้สิ้นซากและให้เห็นผลภายใน 3 – 6 เดือน ซึ่งการดำเนินการจะต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกฝ่ายในการดำเนินการปราบปราม และจะต้องมีการระดมกำลังกวาดล้างอย่างต่อเนื่อง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น