จำหน่ายอุปกรณ์แต่งรถ

วันพุธที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2554

ผลสุ่มตรวจอาหาร ยังพบปนเปื้อน


เมื่อวันที่ 20 กันยายน 54 ที่ห้องประชุมสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต นายแพทย์วิวัฒน์ ศีตมโนชญ์ รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการความปลอดภัยด้านอาหารจังหวัดภูเก็ต ครั้งที่ 2/2554 เพื่อสรุปผลการดำเนินงานตามแผนปฏิบัติการความปลอดภัยด้านอาหารจังหวัดภูเก็ต ประจำปีงบประมาณ 2554 รวมทั้งการนำเสนอปัจจัยสนับสนุน ปัญหา อุปสรรคในการดำเนินงาน ตลอดจนแนวทางหรือข้อเสนอแนะในการปรับปรุงการดำเนินงาน สำหรับปีงบประมาณ 2555
โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม ประกอบด้วย สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต เกษตรจังหวัดภูเก็ต ปศุสัตว์จังหวัดภูเก็ต ผู้อำนวยการศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ภูเก็ต พาณิชย์จังหวัดภูเก็ต อุตสาหกรรมจังหวัดภูเก็ต การค้าภายในจังหวัดภูเก็ต ผู้อำนวยการสถาบันการศึกษา และองค์ปกครองส่วนท้องถิ่น
นายแพทย์วิวัฒน์ กล่าวว่า จังหวัดภูเก็ตได้เลือกการดำเนินงานความปลอดภัยด้านอาหารเป็นตัวชี้วัดหนึ่งในการประเมินผลการปฏิบัติราชการตามคำรับรองการปฏิบัติราชการของกลุ่มจังหวัด และจังหวัด โดยมีการดำเนินงานภายใต้ยุทธศาสตร์ 4 ด้าน คือ ด้านความเข้มแข็งในการกำกับดูแลให้อาหารปลอดภัย ด้านการพัฒนาศักยภาพผู้บริโภค ด้านการพัฒนาบุคลากรและกระบวนงาน และด้านการพัฒนาผู้ประกอบการให้ตระหนักเรื่องอาหารปลอดภัย
“ภาพรวมจากการที่เจ้าหน้าที่สาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต และเจ้าหน้าที่จากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นต่างๆ ทำการสุ่มตัวตัวอย่างอาหารประเภทต่างๆ เบื้องต้นพบว่าอาหารมีสารปนเปื้อน ทั้งอาหารปรุงสำเร็จ อาหารตามตลาดนัด วัตถุดิบที่ใช้ในการปรุงอาหาร โดยเฉพาะพืชผักต่างๆ ยังปนเปื้อนสารเคมี สารโพลาร์ และเพิ่มสูงขึ้นจากปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าห่วงมาก เพราะหากปล่อยให้สารโพลาร์เข้าสู่ร่างกายติดต่อกันเป็นเวลานานจะก่อให้เกิดมะเร็งได้”
นายวิวัฒน์ กล่าวว่า เนื่องจากผลการสุ่มตรวจดังกล่าวนั้นเป็นเพียงการตรวจสอบในเบื้องต้น ซึ่งจะมีการตรวจยืนยันซ้ำอีกครั้งในเดือนหน้า และหลังจากนั้นอีกประมาณ 2 เดือน ทางสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดภูเก็ตจะได้ประกาศให้ประชาชนชาวภูเก็ตได้รับทราบว่ามีอาหารประเภทใดบ้างที่จำหน่ายอยู่ในภูเก็ต และเป็นอาหารที่เสี่ยงต่อการบริโภค เนื่องจากมีสารปนเปื้อนเกินกว่าเกณฑ์มาตรฐาน เพื่อประชาชนจะได้เพิ่มความระมัดระวังในการบริโภคป้องกันการเกิดโรคต่างๆ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น