จำหน่ายอุปกรณ์แต่งรถ

วันเสาร์ที่ 24 กันยายน พ.ศ. 2554

จับน้ำมันเตา 40,000 ลิตร กว่า 8 แสนบาท


เมื่อวันที่ 23 กันยายน 2554 ที่บริเวณท่าเรือน้ำลึกภูเก็ต ต.วิชิต อ.เมือง จ.ภูเก็ต เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการชุดปฏิบัติการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับน้ำมันเชื้อเพลิงตำรวจภูธรภาค 8 นำโดย พ.ต.อ.สุริศักดิ์ วิชัยดิษฐ์ ผกก.สส.2 บก.สส.ภ.8 หัวหน้าชุดปฏิบัติการฯ ร.ต.อ.สมพร รักแก้ว รองสว.สส.2บก.สส.ภ.8 และ ร.ต.อ.วิชาญ รักพริก รอง สว.กก.สส.ภ.จว.นครศรีธรรมราช รองหัวหน้าชุดปฏิบัติการฯ พ.ต.ท.ปัญญา ชัยชนะ สารวัตรทำหน้าที่ทางน้ำตำรวจน้ำภูเก็ต ร่วมกันทำการจับกุมนายอนุสิทธิ์ เก็บทรัพย์ อายุ 47 ปี อยู่บ้านเลขที่ 8 หมู่ที่ 6 ต.วิชิต อ.เมืองภูเก็ต ผู้ดูแลเรือ พร้อมของกลาง เรือประมงดัดแปลงสีน้ำเงิน ชื่อเปรมิกา ขนาดกว้าง 5 เมตร ยาว 20 เมตร จำนวน 1 ลำ และน้ำมันเชื้อเพลิง(น้ำมันเตา) เกรด A บรรจุซุกซ่อนอยู่ในตัวเรือลำดังกล่าว จำนวน 40,000 ลิตร มูลค่ากว่า 880,000 บาท โดยกล่าวหาว่า ได้กระทำความผิดต่อกฎหมาย โดยมีไว้ซึ่งในครอบครองซึ่งสินค้า (น้ำมันเตา) ของกลางโดยรู้ว่าเป็นสินค้าที่ยังมิได้ชำระภาษีเก็บซุกซ่อนมากับเรือประมง
สำหรับการในครั้งนี้ สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้รับแจ้งจากสายว่า ได้มีเรือลักลอบขนน้ำมันเถื่อนเข้ามาในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต โดยนำมาขึ้นที่บริเวณท่าเทียบเรือน้ำลึกภูเก็ต จากนั้นทางเจ้าหน้าที่ก็ได้ออกไปตรวจสอบตามที่ได้รับแจ้ง พบเรือประมงดัดแปลงจอดเทียบท่าอยู่จริง จากนั้นทางเจ้าหน้าที่ก็ได้เข้าทำการตรวจสอบ พบภายในตัวเรือได้ทำเป็นช่องสำหรับบรรทุกน้ำมัน โดยภายในช่องบรรทุกมีน้ำมันอยู่จำนวนหนึ่ง โดยมีนายอนุสิทธิ์ เก็บทรัพย์ เป็นผู้ดูแลเรือลำดังกล่าว จึงได้ขอตรวจสอบถึงที่มาของน้ำมัน แต่นายอนุสิทธิ์ ไม่มีเอกสารให้ตรวจสอบ เพียงแต่แจ้งว่าเป็นผู้ดูแลเรือเท่านั้น ไม่ใช้เจ้าของเรือ ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ทำการตรวจยึดเรือและน้ำมันของกลางดังกล่าว โดยแจ้งข้อกล่าวหาควบคุมตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน ส.รน.3 กก.บก.รน.อ.เมืองภูเก็ต เพื่อลงบันทึกประจำวัน พร้อมรับตัวไปทำการเปรียบเทียบปรับที่สรรพสามิตพื้นที่ สาขาเมืองภูเก็ตต่อไป
และจากการสอบสวนนายอนุสิทธิ์ เก็บทรัพย์ ก็ทราบว่า เรือลำดังกล่าวเป็นของนายแม็ค ไม่ทราบชื่อ – นามสกุลจริง โดยนายแม็คได้ว่าจ้างให้มาเฝ้าเรือ ซึ่งเรือลำดังกล่าวได้เข้ามาจอดเทียบท่าเมื่อประมาณ 10 วันที่แล้ว ส่วนตนเองมีหน้าที่เฝ้า และคอยสูบน้ำภายในลำเรือออก ซึ่งที่ผ่านมาก็ได้ทราบว่าเรือลำดังกล่าวมีน้ำมันอยู่ภายในเรือ แต่ไม่ทราบว่าจะเป็นน้ำมันเถื่อน
จากการสืบทราบของเจ้าหน้าที่ เรือลำดังกล่าวสามารถบรรทุกน้ำมันได้ทั้งสิ้น 70,000 ลิตร และครั้งนี้มีการขนน้ำมันมาจำนวน 60,000 ลิตร ได้มีการถ่ายออกไปแล้วประมาณ 20,000 ลิตร จึงเหลืออยู่ในเรือเพียง 40,000 ลิตร

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น