จำหน่ายอุปกรณ์แต่งรถ

วันเสาร์ที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2555

ตั้งค่าหัวคนร้ายแทง นทท.ออสซี่ดับ 300,000 บ.



เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน 2555 ที่ห้องประชุมชั้น 3 กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต พล.ต.อ.ปานศิริ ประภาวัต รอง ผบ.ตร.(ปป.1) แถลงข่าวความคืบหน้ากรณีคนร้ายใช้อาวุธมีดแทงนางสาวสมิทธ มิเชล อลิชซาเบท (Smith Michelle Elizabeth) อายุ 60 ปี เสียชีวิต และนางสาวลินนี่ แทมมี่ ลี (Lynin Tammee Lee) อายุ 45 ปี ได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 20 มิถุนายน ที่ผ่านมา ที่บริเวณหาดกะตะน้อย ต.กะตะ อ.เมืองภูเก็ต ภายหลังเป็นประธานการประชุมมอบนโยบายการสร้างความเชื่อมั่นให้แก่นัก
ท่องเที่ยวตามนโยบายรัฐบาล และมอบนโยบายการทำงานในพื้นที่ ภาค 8


โดยมี พล.ต.อ.ฉัตรชัย โปตระนันทน์ ที่ปรึกษา (สบ.10) พล.ต.ท.สันติ เพ็ญสูตร ผบช.ภ.8 พล.ต.ต.อดิศร์ งามจิตสุขศรี ผบก.ทท.พล.ต.ต.ชนสิษฎ์ วัฒนวรางกูร ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต และข้าราชการตำรวจในระดับผู้บังคับการ รองผู้บังคับการ หัวหน้าสถานีตำรวจภูธร ในพื้นที่ที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวในพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 8 และภาค 9 เข้าร่วมรวมทั้งติดตามความคืบหน้าของคดีดังกล่าว ว่า จากการรับฟังจากเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติงานพบว่ามีความคืบหน้าไปมาก ได้มีการสอบพยานในที่เกิดเหตุที่เห็นเหตุการณ์ไว้ได้จำนวนหนึ่ง โดยมีประจักษ์พยานที่เห็นเหตุการณ์ขณะที่คนร้ายลงมือก่อเหตุ สามารถให้ตำหนิรูปพรรณคนร้ายได้ ประกอบกับฝ่ายสืบสวนของตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ตได้ไปติดตามกล้องวงจรปิดบริเวณที่เกิดเหตุได้ทั้งหมด 6 จุด สามารถเห็นภาพคนร้ายตั้งแต่ก่อนเกิดเหตุ ขณะเกิดเหตุและหลังเกิดเหตุ โดยเฉพาะกล้องที่ปลากฎภาพขณะที่ผู้เสียชีวิตถูกคนร้ายจ้วงแทง 


“ขณะนี้ได้สั่งการให้ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ตกับคณะพนักงานสืบสวนสอบสวนที่ตั้งขึ้นไปทำการสเก็ตภาพคนร้าย ประกอบกับคำให้การของพยานและภาพที่ได้จากล้องวงจรปิดที่ตรวจได้ทั้งหมด เพื่อขออนุมัติออกหมายจับผู้ต้องหาที่ใช้อาวุธมีดจ้วงแทง นางมิสเชล โดยจะดำเนินการให้แล้วเสร็จในวันนี้ (23 มิ.ย.55) ซึ่งขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นตำรวจภูธรภาค 8 และตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต รวมทั้งในส่วนของผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติได้สั่งการให้กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ตำรวจกองปราบปราม ตำรวจท่องเที่ยว ตำรวจทางหลวงและตำรวจน้ำร่วมกันสืบสวนคดีนี้ เพื่อจับกุมคนร้ายให้ได้” 


พล.ต.อ.ปานศิริ กล่าวด้วยว่า เมื่อดูตำหนิรูปพรรณคนร้ายจากคำให้การของพยานและจากภาพที่เห็นในกล้องงวงจรปิด พบว่าคนร้ายทั้งผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์และผู้ซ้อนท้ายซึ่งเป็นผู้ใช้อาวุธมีดจ้วงแทงผู้ตาย มีอายุระหว่าง 20-25 ปี มีรูปร่างสูงประมาณ 170 เมตรขึ้นไป นอกจากนี้ยังได้มีการตรวจสอบรถจักรยานยนต์ต้องสงสัยที่มีลักษณะคล้ายกับที่คนร้ายใช้ก่อเหตุ จำนวน 29 คันที่อยู่ในจังหวัดภูเก็ต และในจำนวนดังกล่าวยังเหลืออยู่ระหว่างการตรวจสอบอีก 19 คัน 


“เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องคลี่คลายให้ได้อย่างรวดเร็ว โดยขณะนี้ได้ตั้งรางวัลนำจับสำหรับผู้ที่แจ้งเบาะแสจนสามารถจับกุมคนร้ายได้ จำนวน 300,000 บาท เป็นรางวัลของผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 จำนวน 100,000 บาท ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต จำนวน 100,000 บาท และนายสมบัติ อติเศรษฐ์ ประธานกรรมการบริหารโรงแรมกะตะธานี ภูเก็ต บีช รีสอร์ทอีก 100,000 บาท ในเรื่องนี้ถือว่าทุกคนต้องเป็นเจ้าภาพร่วมกันในการต้อนรับนักท่องเที่ยว ฉะนั้นจะปล่อยให้คนเพียง 2 คนมาสร้างความเสียหายเช่นนี้ คงเป็นยอมไม่ได้ และขอให้คำมั่นสัญญาว่าทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะติดตามจับกุมคนร้ายทั้ง 2 คนให้ได้โดยเร็ว”


พล.ต.อ. ปานศิริ กล่าวอีกว่า นอกจากการหาตัวคนร้าย หารถจักรยานยนต์ที่ใช้ก่อเหตุและมีดของกลางต่างๆ แล้ว ซึ่งในการทำงานครั้งนี้ไม่ใช่เฉพาะตำรวจภูเก็ตอย่างเดียว แต่มีตำรวจในพื้นที่ติดต่อใกล้เคียงทั้งหมดร่วมทำงานด้วย รวมทั้งทางศูนย์สืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ตจะไปไล่แผนประทุษกรรมคนร้ายที่เคยก่อเหตุมาแล้ว รวมถึงการไล่ความสัมพันธ์ต่างๆ ให้มีรายละเอียดเพิ่มขึ้น ซึ่งตำรวจทุกฝ่ายทำงานกันอย่างเต็มที่ และคิดว่าจะจับกุมตัวคนร้ายได้ โดยตน และ พล.ต.อ.ฉัตรชัย โปตระนันทน์ ที่ปรึกษา (สบ.10) ซึ่งกำกับดูแลด้านการปราบปราม จะได้มากำกับดูแลติดตามตรวจสอบเรื่องนี้อย่างใกล้ชิดโดยตลอด 


อย่างไรก็ตาม พล.ต.อ.ปานศิริ กล่าวด้วยว่า นอกจากที่กล่าวมาแล้วยังได้สั่งการตรวจสอบบริเวณเส้นทางเข้าออก โดยเฉพาะบริเวณด่านตรวจท่าฉัตรไชยโดยละเอียด รวมถึงเส้นทางอื่นๆ ด้วย เพื่อที่ป้องกันการหลบหนี และขอความร่วมมือพี่น้องประชาชนในการช่วยแจ้งเบาะแส เพราะในการทำงานตลอด 48 ชั่วโมงที่ผ่านมาในการนำภาพที่ปรากฏตามกล้องวงจรปิดและพยานหลักฐานต่างๆ ที่ได้จากการวิเคราะห์ค่อนข้างชัดเจน เมื่อได้เห็นภาพและรูปพรรณสัณฐานสามารถที่จะบอกได้ 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น