จำหน่ายอุปกรณ์แต่งรถ

วันอังคารที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

จเรตำรวจติดตามการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจ



เมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2556 ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต พล.ต.อ.อมรินทร์ อัครวงษ์ จเรตำรวจแห่งชาติ ได้เดินทางมาตรวจราชการ และประชุมเพื่อซักซ้อมความเข้าใจร่วมกับผู้กำกับ และ กต.ตร.ทุกสถานี เพื่อติดตามเรื่องโครงการตำรวจสีขาว เพื่อคัดเลือกตำรวจที่มีคุณธรรม จริยธรรม ดีเยี่ยมดีเด่น ของแต่ละสถานี 


และเพื่อรับทราบถึงผลการปฏิบัติการด้านการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมของตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต โดยมี พล.ต.ต.โชติ ชวาลวิวัฒน์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วยรองผู้บังคับการ ผู้กำกับการทุกสถานี และกกตร.ทุกสถานี เข้าร่วม 


โดยก่อนที่จะมีการประชุม ทางภ.จว.ภูเก็ต ได้จัดกองเกียรติยศ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจจากสถานีต่างในจังหวัดภูเก็ตจำนวน 3 หมู่ ตั้งแถวให้การตอนรับ พร้อมทั้งได้เดินตรวจแถวกองเกียรติยศ โดยมีวงดุริยางค์จากทัพเรือภาค 3 บรรเลงเพลงสวนสนาม 


จากนั้น พล.ต.อ.อมรินทร์ ได้กล่าวกับผู้สื่อข่าวถึงการเดินทางมาตรวจราชการในวันนี้ว่า จเรตำรวจแห่งชาติมีหน้าที่ในการคุมความประพฤติของตำรวจทั้งประเทศ และปัจจุบันได้มีกำหนดออกตรวจราชการทุกสถานีตำรวจทั่วประเทศ จำนวน 1,460 สถานีตำรวจ เพื่อติดตามการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจในการตอบสนองความต้องการของประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งนักท่องเที่ยวได้อย่างมีประสิทธิภาพหรือไม่ รวมทั้งเรื่องการร้องเรียนของตำรวจทั้งประเทศ ซึ่งที่ผ่านมาการร้องเรียนจะมี 3 กลุ่มใหญ่ 


กลุ่มแรก เกี่ยวกับเรื่องการแจ้งเบาะแส กลุ่มที่ 2 เกี่ยวกับความประพฤติของตำรวจด้านคุณธรรม จริยธรรม และกลุ่มที่ 3 เกี่ยวกับตำรวจทุจริตคอรัปชั่น ซึ่งเป็นการร้องเรียนที่จะต้องมีการตรวจสอบทั่วประเทศ โดยในส่วนของจังหวัดภูเก็ตมีข้อมูลการร้องเรียนบางส่วนซึ่งต้องตรวจสอบว่า มีมูลหรือไม่ และจะต้องพิจารณาตามข้อเท็จจริง โดยต้องทำความจริงให้ปรากฏ แต่เป็นที่น่ายินดีว่า ข้อมูลที่ได้จากส่วนกลาง และจังหวัดภูเก็ต โดยเฉพาะทางผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ได้มีการควบคุมดูแลผู้ใต้บังคับบัญชา มีลักษณะภาวะผู้นำ สามารถทำให้ตำรวจของจังหวัดภูเก็ตทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ


“ประกอบกับส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติได้มีการกวดขันเป็นพิเศษทุกวัน ทำให้ทางผู้บัญชาการ ผู้บังคับการ และหัวหน้าสถานีตำรวจ มีการตื่นตัวในการทำงาน และกำลังขับเคลื่อนไปด้วยดี แต่ในส่วนของจเรตำรวจก็ต้องปฏิบัติคู่ขนานกันไป โดยเน้นดูในเรื่องของการคุมความประพฤติ ซึ่งมีข่าวว่า ตำรวจได้มีการประพฤติผิด โดยผันตัวไปค้ายาบ้า ซึ่งทำให้สะเทือนไปทั้งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งขณะนี้จะเห็นได้ว่า ประชาชนให้ความสนใจตำรวจมากเป็นพิเศษ จากการตรวจสอบจากเว็บไซด์แจ้งเบาะแสพฤติกรรม พบว่ามีการแจ้งเข้ามาเป็นจำนวนมาก ซึ่งทางตำรวจก็ได้ดำเนินการตรวจสอบอยู่แล้ว และสามารถตอบปัญหาสังคมได้ 


พล.ต.อ.อมรินทร์ กล่าวอีกว่า ทางผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติได้กวดขันระดับบนส่วนหนึ่ง ทางจเรตำรวจก็มาตรวจทางด้านความประพฤติ และที่สำคัญในปีหน้าจเรตำรวจเน้นที่จะปลุกจิตสำนึกในการบริการรับใช้ประชาชน ปลุกจิตสำนึกให้ตำรวจเป็นตำรวจสีขาว มีอุดมการณ์ด้วยตัวตำรวจเอง ไม่ใช่ดีที่มีวินัย หรือเป็นคนดีเพราะถูกผู้บังคับบัญชาบังคับ แต่พยายามที่จะให้ตำรวจได้มีจิตใจทำงานรับใช้ประชาชนด้วยตัวของตัวเอง โดยไม่จำเป็นต้องมีผู้บังคับบัญชามาบังคับ และในส่วนของภาค 8 การที่มาเน้นจังหวัดภูเก็ต เพราะเป็นเมืองท่องเที่ยว ที่ทำรายได้ของประเทศ หากตำรวจมีความเข้มแข็งมีคุณธรรม จริยธรรม ดูแลนักท่องเที่ยวดี ก็จะช่วยประเทศชาติในภาพรวมได้ด้วย 


อย่างไรก็ตาม พล.ต.อ.อมรินทร์ กล่าวด้วยว่า การประชุมในครั้งนี้ เพื่อซักซ้อมความเข้าใจผู้กำกับ กต.ตร. และผู้แทนภาคประชาชน ในการคัดเลือกตำรวจที่มีคุณธรรม มีความประพฤติดีเยี่ยมดีเด่น หรือที่เรียกว่าเป็นตำรวจสีขาว โดยมีเป้าหมายในปีนี้อย่างน้อยที่สุด จะต้องคัดตำรวจสีขาวให้ได้โรงพักละประมาณ 10 คน ซึ่งไม่มีใครรู้ดีเท่ากับตำรวจแต่ละสถานี และให้ภาคประชาชนเข้ามาช่วยในการคัดด้วย


ทั้งนี้เพื่อกระตุ้นให้ตำรวจที่ได้รับรางวัลให้มีความภาคภูมิใจที่จะเป็นตำรวจที่ดี ซึ่งจะพยายามต่อยอดในทุกๆ ปี กล่าว คือ หากในปี 2556 สามารถกระตุ้นตำรวจสีขาวได้ 10 คน ในปีต่อๆ ไป ก็จะเพิ่มอีก 10 คน และจะพยายามเพิ่มในทุกๆ ปี ในที่สุดวัฒนธรรมองค์กรของตำรวจก็จะเปลี่ยนไปเป็นตำรวจที่ดี และตำรวจที่ไม่ดีก็ไม่สามารถที่จะอยู่ในองค์กรนี้ได้ คิดว่าสำนักงานตำรวจแห่งชาติกำลังเดินมาถูกทางแล้ว และน่าจะเห็นการเปลี่ยนแปลงได้ในระยะเวลาอันใกล้นี้ 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น