เมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ที่โรงแรมภูเก็ตเมอร์ลิน หอการค้าจังหวัดภูเก็ตได้จัดให้มีการประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2556 โดยมีนายแพทย์ศิริชัย ศิลปอาชา ประธานหอการค้าจังหวัดภูเก็ต ตลอดจนสมาชิกฯ และแขกผู้มีเกียรติเข้าร่วม โอกาสเดียวกันนี้ยังได้รับเกียรติจาก นายไมตรี อินทุสุต ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ปาฐกถาพิเศษ เรื่อง “ภูเก็ตกับการเติบโตระดับโลก”
สำหรับวาระการประชุมในครั้งนี้ นอกจากการรายงานกิจกรรมดำเนินงานประจำปี 2555 และอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องแล้ว วาระสำคัญ คือ การเลือกคณะกรรมการบริหารหอการค้าจังหวัดภูเก็ต ประจำปี 2556-2557ซึ่งใช้วิธีการเสนอรายชื่อ ปรากฏว่ามีการเสนอรายชื่อครบตามจำนวนของกรรมการที่ตั้งไว้ คือ 30 คน หลังจากนั้นให้คณะกรรมการฯ เลือกประธาน ปรากฏว่าผู้ได้รับเลือกให้เป็นประธานหอการค้าคนใหม่ คือ นายเกรียงศักดิ์ สุขสมบูรณ์ อดีตรองประธานฯ สมัยที่ผ่านมา
นายเกรียงศักดิ์ กล่าวถึงนโยบายการทำงานว่า จะผลักดันให้จังหวัดภูเก็ตก้าวสู่ระดับโลกอย่างยั่งยืน และพร้อมจะเข้าสู่การเปิดประตู “ประชาคมอาเซียน” (AEC) สำหรับภูเก็ตจำเป็นที่จะต้องปรับเปลี่ยนตัวเองเพื่อรับมือกับการก้าวเข้าสู่การเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ปี 2558 ด้วยเช่นกัน ซึ่งจะส่งผลให้ภูเก็ตเข้าไปอยู่ในกลุ่มเศรษฐกิจขนาดใหญ่ และจะมีการสร้างอำนาจต่อรองทางด้านการค้า/เศรษฐกิจในเวทีการค้าโลกได้อย่างเข้มแข็งมากยิ่งขึ้น
นอกจากนี้จะได้มีการผลักดันให้จังหวัดภูเก็ตมีศูนย์แสดงสินค้า ซึ่งเป็นการเปิดให้ภูเก็ตเป็นที่รองรับตลาดโลกในการแสดงสินค้า และจะมีผู้คนหลั่งไหลเข้ามาอย่างต่อเนื่องทั้งชาวต่างชาติ และชาวไทย จึงต้องเร่งผลักดันเกี่ยวกับด้านระบบลอจิสติกส์ การบริหารระบบการขนส่ง การคมนาคมที่ดีเพื่อความรวดเร็ว และทันเวลา จังหวัดภูเก็ตต้องมีการจัดการที่ดีเรื่องถนนหนทางในการรองรับจำนวนรถที่เพิ่มขึ้น
รวมทั้งจะสนับสนุนให้มีการสร้างรถไฟรางเบาต่อไป
รวมทั้งผลักดันให้จังหวัดภูเก็ต และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาดูแลเกี่ยวกับโครงสร้างพื้นฐาน ทั้งเรื่องน้ำประปา ไฟฟ้า การจัดการขยะ สนามบิน โรงเรียน รวมทั้งพื้นที่สีเขียวเพื่อสิ่งแวดล้อมที่ดี และพร้อมรองรับจำนวนคนอยู่อาศัยในภูเก็ตที่เพิ่มมากขึ้น และจำนวนนักท่องเที่ยวที่หลั่งไหลเข้ามาใช้ทรัพยากรในภูเก็ตอย่างต่อเนื่องด้วย
นายเกรียงศักดิ์ กล่าวอีกว่า ในเรื่องของการท่องเที่ยวนั้นจะพยายามผลักดัน โดยการสนับสนุนธุรกิจการท่องเที่ยวในภูเก็ต รวมทั้งเร่งให้ภาครัฐมีการตรวจสอบบริษัท และหน่วยงานธุรกิจของชาวต่างชาติที่มีแนวโน้มส่อเค้าผิดกฎหมาย หรือทำผิดในเรื่องจดทะเบียนนิติบุคคล การทำบัญชี สถานที่ตั้งต่างๆ และอาชีพต่างๆ ซึ่งเป็นอาชีพสงวนของคนไทย เช่น ช่างตัดผม และมัคคุเทศก์ เป็นต้น
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น