เมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2556 ที่ห้องรับรองศาลากลางจังหวัดภูเก็ต นายตีแยรี วีโต เอกอัครราชทูตฝรั่งเศสประจำประเทศไทย พร้อมคณะ เข้าเยี่ยมคารวะ และหารือการเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างจังหวัดภูเก็ตกับประเทศฝรั่งเศส นายไมตรี อินทุสุต ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ในโอกาสเดินทางมารับตำแหน่งใหม่ในประเทศไทย โดยเลือกเดินทางเยือนภูเก็ตเป็นจังหวัดแรก
นายตีแยรี กล่าวว่า การเดินทางมาเยี่ยมคาวรวะผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตในครั้งนี้ เนื่องจากตนพึ่งมารับตำแหน่งใหม่ และเลือกเดินทางมาเยือนภูเก็ตเป็นจังหวัดแรกของประเทศไทย ซึ่งก่อนหน้านี้นายกรัฐมนตรีประเทศฝรั่งเศสได้เดินทางมาเยือนประเทศไทย และได้เน้นย้ำให้มีการกระชับความสัมพันธ์ระหว่างกัน โดยเฉพาะการเป็นเมืองพี่เมืองน้องระหว่างภูเก็ตกับเมืองนีซ เพราะภูเก็ตเป็นเมืองเดียวที่ได้มีการลงนามความร่วมมือสานความสัมพันธ์ในลักษณะเมืองพี่เมืองน้องกับประเทศฝรั่งเศส จึงเป็นโอกาสดีที่จะมีการกระชับความสัมพันธ์ระหว่างกันเพิ่มมากขึ้นต่อไปในอนาคต
“หลังจากเดินทางกลับไปที่กรุงเทพฯ แล้ว จะได้ทำหนังสือถึงนายกเทศมนตรีเมืองนีซ เพื่อให้มีการดำเนินกิจกรรมในการสานความสัมพันธ์ระหว่างภูเก็ตและเมืองนีซให้มีความแน่นแฟ้นมากขึ้น รวมถึงแจ้งให้ทราบถึงการเดินทางมาเยือนจังหวัดภูเก็ต และความเห็นของผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตที่ต้องการให้การกระชับความสัมพันธ์ระหว่างกันให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น ในฐานะที่เป็นเอกอัครราชทูตก็จะทำในอำนาจหน้าที่เพื่อช่วยส่งเสริมการกระชับความสัมพันธ์อีกแรงหนึ่ง”
นายตีแยรี กล่าวอีกว่า นอกจากจะมีการกระชับความสัมพันธ์ในลักษณะของการเป็นเมืองพี่เมืองน้องให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นแล้ว มองว่าน่าจะมีการกระชับความสัมพันธ์ในเรื่องการค้าการลงทุน และการท่องเที่ยวระหว่างกันด้วย โดยตนมีแผนที่จะนำนักธุรกิจ SME เดินทางมาศึกษาดูงาน เพื่อศึกษาความเป็นไปได้ และหารือร่วมกันในการแลกเปลี่ยนความร่วมมือทางด้านการค้าการลงทุนระหว่างกัน แต่ขณะนี้ยังไม่ได้กำหนดระยะเวลาว่าจะเดินทางมาเมื่อไหร่ ซึ่งจะต้องมีการหารือกันอีกรอบในการกำหนดกรอบต่างๆ
ทางด้านนายไมตรี กล่าวว่า จากการร่วมหารือกับเอกอัครราชทูตฝรั่งเศสในครั้งนี้ มีความเป็นไปได้ในการที่จะสานความสัมพันธ์ระหว่างกันให้แน่นแฟ้นมากขึ้น ซึ่งทางจังหวัดภูเก็ตก็จะต้องกลับไปดูในรายละเอียดว่าหลังจากที่มีการร่วมลงนามเป็นเมืองพี่เมืองน้องระหว่างกันมาตั้งแต่ปี 2532 ทั้งสองเมืองได้มีการทำกิจกรรมอะไรร่วมกันไปบ้างแล้ว เพื่อทบทวนและวางแผนในการเชื่อมความสัมพันธ์ว่าจะเดินหน้าต่อไปอย่างไร ส่วนกรณีที่ทางเอกอัครทูตฯ จะเชิญผู้ประกอบการ SME ฝรั่งเศสเข้ามาศึกษาดูงานในภูเก็ตนั้นเป็นเรื่องที่น่ายินดีอย่างยิ่ง และทางจังหวัดก็พร้อมในการต้อนรับ แต่จะต้องมาหารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่าจะต้องดำเนินการอย่างไรบ้าง นอกจากนั้นในการหารือร่วมกันยังได้มีการพูดคุยถึงเรื่องการตั้งสาขาโรงเรียนของฝรั่งเศสที่ภูเก็ต เพื่อเพิ่มโอกาสทางการศึกษาคนภูเก็ตด้วย
อย่างไรก็ตามนายไมตรี กล่าวว่า ทางเอกอัครราชทูตฯ ได้กล่าวขอบคุณทางการไทย และเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ได้ดูแลชาวฝรั่งเศสที่เข้ามาอาศัยและท่องเที่ยวในจังหวัดภูเก็ตเป็นอย่างดี พร้อมแจ้งว่ากรณีที่นักท่องเที่ยวหรือคนฝรั่งเศสที่เข้ามาอาศัยอยู่ในจังหวัดภูเก็ตประมาณ 1,000 คน หากมีปัญหาหรือสร้างปัญหาก็ให้แจ้งสถานทูตได้เลย เพื่อที่จะเข้ามาดำเนินการตรวจสอบ และยินดีที่จะเข้ามาดูแลอย่างเต็มที่
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น