จำหน่ายอุปกรณ์แต่งรถ

วันอังคารที่ 23 เมษายน พ.ศ. 2556

“เด็จพี่” นำทีมรองผู้ว่าฯ ตรวจสอบน้ำเสียหาดบางเทา



เมื่อวันที่ 23 เมษายน 2556 นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ดูแลพื้นที่จังหวัดชายฝั่งทะเลอันดามัน พร้อมด้วยนายสมเกียรติ สังข์ขาวสุทธิรักษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต นายประเจียด อักษรธรรมกุล หัวหน้าสำนักงานจังหวัดภูเก็ต นายประพันธ์ ขันธ์พระแสง หัวหน้าศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดภูเก็ต นายมาแอน สำราญ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลเชิงทะเล นายเกชา เกราะเหล็ก ที่ปรึกษาชมรมเรือหางยาวอ่าวบางเทา ตลอดจนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง 


ลงพื้นที่ตรวจสอบกรณีสื่อมวลชนนำเสนอปัญหาการปล่อยน้ำเสียลงในลำคลองบางเทาและน้ำไหลลงสู่ทะเลบริเวณอ่าวบางเทา หมู่ที่ 3 ต.เชิงทะเล อ.ถลาง จ.ภูเก็ต ก่อให้เกิดปัญหาน้ำในลำคลองและบริเวณชายทะเลมีสีดำเป็นวงกว้าง รวมทั้งส่งกลิ่นเหม็นสร้างความเดือนร้อนให้กับชาวประมงที่นำเรือมาจอดในคลองดังกล่าว รวมถึงผลกระทบกับนักท่องเที่ยว เนื่องจากเมื่อลงเล่นน้ำแล้วจะเกิดอาการคันตามร่างกาย รวมถึงชาวประมงที่ประกอบอาชีพอยู่บริเวณดังกล่าวด้วย 


โดยได้มีการลงพื้นที่ 3 จุด ประกอบด้วย จุดต้นน้ำ บริเวณสะพานใกล้โรงแรมดาหลา จากการตรวจสอบพบว่า น้ำในจุดดังกล่าวไม่มีสีดำแต่อย่างใด หลังจากนั้นได้เดินต่อไปอีกประมาณ 600 เมตร เป็นพื้นที่หมู่ที่ 2 บริเวณสะพานบิลลี่ พบว่า สภาพน้ำในลำคลองเริ่มมีสีดำ โดยเจ้าหน้าที่ได้ลงไปหาต้นตอของน้ำที่ไหลลงมาในคลองดังกล่าวแต่ไม่พบ จากนั้นได้เดินทางต่อไปยังสะพานบางเทา ห่างจากจุดที่ 2 ประมาณ 1.5 กิโลเมตร ซึ่งอยู่ใกล้กับปลายน้ำที่มีการปล่อยลงทะเล พบว่าสภาพน้ำมีสีดำเข้มและมีกลิ่นเหม็นมาก 


ขณะที่ตัวแทนจากสำนักงานสิ่งแวดล้อมภาคที่ 15 ยอมรับว่า จากการเก็บตัวอย่างน้ำบริเวณสะพานวิลลี่ บริเวณไผ่ตาวิลล่า และบริเวณปากคลองบางเทา เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2556 พบว่ามีปัญหาในเรื่องของกลิ่น และสีดำขุ่น มีแบคทีเรีย เนื่องจากบริเวณดังกล่าวจะมีเรื่องของน้ำขึ้นน้ำลงเข้ามาเกี่ยวข้อง การแก้ปัญหาเรื่องกลิ่นโดยใช้จุลินทรีย์ทำได้ผลยาก หากจะใช้ก็ต้องเป็นจุลินทรีย์คัดสายพันธุ์ และต้องทำต่อเนื่อง ซึ่งปัญหาดังกล่าวแม้จะเป็นเพียงจุดเล็กๆ แต่กระทบในวงกว้าง และมีการร้องเรียนจากนักท่องเที่ยวมาอย่างต่อเนื่อง 


ทั้งนี้หลังจากตรวจสอบพื้นที่เสร็จแล้วก็ได้มีการมาประชุมร่วมกันเพื่อกำหนดหาแนวทางในการแก้ปัญหา โดยนายพร้อมพงศ์ กล่าวว่า จากกรณีที่มีข่าวทางสื่อมวลชนกรณีมีการปล่อยน้ำเสียลงในลำคลองบางเทาและไหลาลงสาทะเลบริเวณหาดบางเทา ซึ่งนอกจากมีผลกับคุณภาพชีวิตของพี่น้องประชาชนที่ประกอบอาชีพอยู่บริเวณดังกล่าวแล้ว ยังส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของการท่องเที่ยวด้วย จึงได้มีการประสานมายังจังหวัดภูเก็ต และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น 


“การตรวจสอบพื้นที่ตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำและปลายน้ำของคลองบางเทา พบว่าน้ำที่ไหลลงมาในลำคลองช่วงต้นน้ำจากเหนืออยู่ในพื้นที่หมู่ที่ 2 น้ำยังไม่มีสีดำ แต่เมื่อมาถึงกลางน้ำซึ่งเป็นรอยต่อระหว่างหมู่ที่ 2 กับหมู่ที่ 3 บริเวณอ่าวบางเทา พบน้ำในลำคลองเริ่มมีสีดำ และเมื่อไหลลงอ่าวบางเทาซึ่งเป็นปลายน้ำจะพบว่าน้ำมีสีดำมาก และมีกลิ่นเหม็นด้วย นอกจากนี้ยังพบว่าสองฝั่งคลองจะเป็นที่ตั้งของสถานประกอบการ มีทั้งโรงแรมที่พักขนาดใหญ่และขนาดเล็ก ร้านอาหาร บาร์เบียร์ บริการล้างอัดฉีด และบ้านเรือนของประชาชน นอกจากนี้พบว่ามีพี่น้องชาวประมงบางรายที่นำเรือเข้ามาจอดในลำคลองดังกล่าว ได้รับผลกระทบจากน้ำเสียจนทำให้เป็นโรคผิวหนังเรื้อรังด้วย” 


นายพร้อมพงศ์ กล่าวด้วยว่า แนวทางในการแก้ปัญหานั้นจะต้องกำหนดแผนงานดำเนินการทั้งในระยะสั้นซึ่งจะต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วนในพื้นที่ โดยมีการรณรงค์สร้างจิตสำนึกของผู้ประกอบการและประชาชนไม่ให้มีการปล่อยน้ำเสียลงมาในลำคลองดังกล่าว การใช้มาตรการทางสังคมเข้ามากดดัน โดยดึงภาคประชาชนเข้ามามีส่วนร่วม หากไม่ได้ผลก็ต้องใช้มาตรการทางกฎหมาย ตรวจสอบเรื่องการติดตั้งระบบบำบัดน้ำเสีย 


รวมทั้งจะต้องตั้งคณะกรรมการขึ้นมาดูแลปัญหาดังกล่าวโดยเฉพาะและทำเป็นต้นแบบสำหรับการแก้ปัญหาในพื้นที่อื่นๆ ด้วย เนื่องจากทราบว่าขณะนี้ในจังหวัดภูเก็ตมีการร้องเรียนเรื่องการปล่อยน้ำเสียลงในลำคลองสาธารณะจำนวนไม่ต่ำกว่า 10 จุด และระยะยาวทราบว่าขณะนี้องค์การบริหารส่วนตำบลเชิงทะเลได้รับการอนุมัติงบประมาณจำนวน 300 ล้านบาทในการจัดทำระบบบำบัดน้ำเสียซึ่งต้องใช้เวลาดำเนินการร่วม 2 ปี 


นายพร้อมพงศ์ ยังกล่าวด้วยว่า ผลกระทบที่เกิดขึ้นจากปัญหาน้ำเสียดังกล่าวไม่เฉพาะด้านคุณภาพชีวิตกของพี่น้องคนบางเทาเท่านั้น แต่ยังกระทบกับบรรยากาศการท่องเที่ยวด้วย เพราะหาดทรายชายทะเลเป็นจุดขายสำคัญของภูเก็ต หากมีปัญหาก็ไม่มีคนเข้ามาท่องเที่ยว ซึ่งหากต้องการงบประมาณที่จะนำมาใช้ก็ให้ประสานมาได้ และตนพร้อมที่จะประสานไปยังรับมนตรีที่เกี่ยวข้องเพื่อจัดหางบประมาณมาแก้ปัญหาต่อไป 


ด้านนายเกชา เกราะเหล็ก ที่ปรึกษาชมรมเรือหางยาวอ่าวบางเทา กล่าวว่า คงไม่ต้องพิสูจน์ว่าน้ำเสียในลำคลองมีระดับเท่าใด เพราะปัจจุบันจะพบว่าปลาในลำคลองตายเกือบหมดแล้ว และยังส่งกลิ่นเหม็นที่สามารถรับรู้ได้ ทราบว่าทางองค์การบริหารส่วนตำบลเชิงทะเลได้มีการประชุมเพื่อแก้ปัญหา แต่ไม่มีการแจ้งให้ทางชุมชนหรือทางงกำนันผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ทราบ จึงขอให้หากมีการประชุมแก้ปัญหาดังกล่าวก็ขอให้แจ้งให้ทราบด้วย เพื่อจะได้มาหาทางออกร่วมกัน


ทางด้านนายสมเกียรติ สังข์ขาวสุทธิรักษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัด กล่าวว่า จากที่ได้รับฟังความเห็นจากทุกภาคส่วนแล้ว สรุปว่าในการทำงานจะต้องมีการบูรณาการความร่วมมือของทุกภาคส่วน เบื้องต้นมอบหมายภารกิจให้ทางองค์การบริหารส่วนตำบลเชิงทะเลไปทำการขุดลอกคลองดังกล่าวที่มีความยาวประมาร 1.6 กม.ให้มีการตั้งคณะกรรมการระดับจังหวัด โดยเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาเป็นคณะกรรมการและจัดให้มีการประชุมร่วมกันเพื่อกำหนดแนวทางการแก้ปัญหาที่ชัดเจนอย่างเร่งด่วน มอบหมายให้ฝ่ายปกครองอำเภอถลาง และองค์การบริหารส่วนตำบลเชิงทะเล ทำการสำรวจจำนวนโรงแรมและสถานประกอบการที่ตั้งอยู่ตลอดแนวลำคลองสองฝั่ง ว่ามีการอนุญาตถูกต้องหรือไม่อย่างไร 


หลังจากมีการสำรวจได้ข้อมูลแล้วก็ให้เชิญผู้ประกอบการทุกส่วนมาประชุมร่วมกันเพื่อขอความร่วมมือในการช่วยแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น นอกจากนี้ในส่วนของปัญหาน้ำเสียและมีกลิ่นเหม็นนั้นก้มอบหมายให้ทางทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดไปทำการแก้ปัญหาในเบื้องต้น ในส่วนของการอนุญาตก่อสร้างต่างๆ ก็ขอให้ทางองค์การบริหารส่วนตำบลเชิงทะเลได้เพิ่มความงวด โดยเฉพาะเรื่องการจัดทำระบบบำบัดน้ำเสียของสถานประกอบการต่างๆ ซึ่งหากดำเนินการได้ตามแนวทางที่มีการประชุมร่วมกันก็เชื่อว่าน่าจะแก้ปัญหาได้ และสามารรถเป็นแบบอย่างในการแก้ปัญหาของพื้นที่อื่นๆ ต่อไป 


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น