จำหน่ายอุปกรณ์แต่งรถ

วันจันทร์ที่ 22 เมษายน พ.ศ. 2556

ร้องสื่อได้รับผลกระทบจากน้ำเสียที่ถูกปล่อยลงคลอง



เมื่อวันที่ 21เมษายน 2556 นายเกชา เกราะเหล็ก ที่ปรึกษาชมรมเรือหางยาวอ่าวบางเทา ต.เชิงทะเล อ.ถลาง จ.ภูเก็ต พร้อมด้วยสมาชิกชมรมเรือหางยาวฯ นำผู้สื่อข่าวตรวจสอบพื้นที่ชายหาดบางเทาบริเวณรอยต่อระหว่างคลองบางเทากับชายหาดบางเทา หมู่ที่ 3 ต.เชิงทะเล อ.ถลาง ซึ่งพบว่าน้ำในบริเวณภายในลำคลองและบริเวณชายหาดมีสีดำคล้ำ และมีกลิ่นเหม็นตลอดแนวชายหาดเป็นวงกว้างระยะความยาวประมาณร่วม 2 กิโลเมตร



อันเป็นผลมาจากการปล่อยน้ำเสียลงในลำคลองและไหลลงสู่ทะเล สร้างความเดือดร้อนให้กับชาวบ้านที่นำเรือพานักท่องเที่ยวไปดำน้ำดูปะการัง และนักท่องเที่ยวที่ต้องการจะลงเล่นน้ำบริเวณดังกล่าวไม่สามารถลงเล่นน้ำได้ หากปล่อยไว้ก็จะส่งผลกระทบกับสัตว์น้ำบริเวณดังกล่าว นอกจากนี้ยังพบว่ามีชาวบ้านที่นำเรือไปจอดภายในลำคลองและต้องเดินลุยน้ำทำให้เกิดอาการคันและเป็นโรคผิวหนังเรื้อรัง


นายเกชา กล่าวว่า ปัญหาน้ำเสียบริเวณดังกล่าวเกิดขึ้นมาเป็นเวลาหลายปีแล้ว โดยเกิดจากสถานประกอบการที่ปล่อยน้ำเสียลงมาในลำคลองโดยไม่ผ่านการบำบัด และได้มีการร้องเรียนไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาแล้วหลายครั้ง ซึ่งที่ผ่านมาทางองค์การบริหารส่วนตำบลเชิงทะเลได้มีการออกตรวจสอบการปล่อยน้ำลงในลำคลองของสถานประกอบการต่างๆ มาระยะหนึ่งแต่ก็เงียบหายไป และยังคงมีการปล่อยน้ำเสียลงมามาในลำคลองเช่นเดิม โดยเฉพาะในระยะหลังๆ น้ำเริ่มมีสีดำและกลิ่นเหม็นมากขึ้น จึงอยากเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เข้ามาตรวจสอบและแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น 


“ผลกระทบจากปัญหาดังกล่าว นอกจากสีของน้ำทะเลที่เปลี่ยนจากสีฟ้าเป็นสีดำ มีกลิ่นเหม็น ทำให้นักท่องเที่ยวไม่กล้าที่จะลงไปเล่นน้ำในบริเวณดังกล่าว ยังส่งผลกระทบกับพี่น้องชาวประมงพื้นบ้านซึ่งจับสัตว์น้ำอยู่ในบริเวณดังกล่าว และชาวบ้านที่นำเรือพานักท่องเที่ยวไปดำน้ำดูปะการังในบริเวณเกาะแก่งต่างๆ เนื่องจากต้องนำเรือมาจอดในลำคลองและเมื่อต้องเดินลุยน้ำก็เกิดอาการคันตามผิวหนังซึ่งมีบางรายต้องไปรับการรักษาเนื่องจากเกิดปัญหาเรื้อรัง” 


นายเกชา ยังกล่าวต่อด้วยว่า สำหรับชมรมเรือหางยาวอ่าวบางเทามีสมาชิกกว่า 85 คน มีเรือหางยาวบริการรับ – ส่งนักท่องเที่ยวจำนวน 58 ลำ และเรือประมงพื้นบ้านอีก 25 ลำ ที่จอดเรืออยู่บริเวณดังกล่าว และเป็นที่แน่นอนว่าเจ้าของเรือทุกลำจะต้องมีการสัมผัสกับน้ำเสีย ขณะขึ้นลงเรือ อีกทั้งที่ตั้งของชมรมฯ อยู่ติดกับจุดที่น้ำเสียไหลลงสู่ทะเลจึงทำให้เกิดผลกระทบกับชมรมฯ เป็นวงกว้าง 


ขณะที่นายสุรินทร์ เครือแก้ว หนึ่งในสมาชิกชมรมเรือหางยาวอ่าวบางเทา และเป็นเจ้าหน้าที่ศูนย์ช่วยเหลือนักท่องเที่ยวอ่าวบางเทาซึ่งสัมผัสน้ำเสียจนเกิดอาการแพ้คันจนต้องพบแพทย์เพื่อทำการรักษา เล่าว่าเขาได้สัมผัสกับน้ำเสียขณะลงซ่อมแซมเรือจนเกิดอาการคัน และต้องไปหาหมอ ซึ่งหมอบอกว่าน้ำเสียเข้าเส้นเลือด มีอาการติดเชื้อ เป็นเชื้อรา และต้องกินยาฆ่าเชื้อเพื่อรักษาโรค แต่ด้วยอาชีพในการหาเลี้ยงปากท้องก็ต้องทนลงน้ำทุกวันเพราะจอดเรือไว้ในลำคลองดังกล่าว และต้องใช้บริเวณปากน้ำดังกล่าวออกสู่ทะเล ซึ่งนอกจากส่งผลกระทบต่อชาวบ้านแล้วยังกระทบกับนักท่องเที่ยวที่มาท่องเที่ยวด้วย 


ด้านนายชัยยะ บุญยืน ผู้ประกอบการห้องพักและร้านอาหารซึ่งตั้งอยู่บริเวณหน้าหาดบางเทา กล่าวว่า ขณะนี้น้ำเสียจากลำคลองที่ไหลลงทะเลนั้น ได้ส่งผลกระทบกับลูกค้าและแขกที่มาเที่ยวในอ่าวบางเทาแล้ว โดยเฉพาะผู้ที่ลงไปเล่นน้ำทะเล ได้รับผลกระทบเนื่องจากเกิดอาการแพ้และคันตามร่างกาย รวมถึงกลิ่นเหม็นที่โชยมาเป็นระยะๆ ด้วย จึงอยากเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เข้ามาแก้ไข เพราะส่งผลกระทบกับภาพลักษณ์ของการท่องเที่ยวด้วย 


ด้านนายสมศักดิ์ คปานะ อายุ 49 ปี เจ้าของเรือหางยาวรับจ้างนำเที่ยวไปดำน้ำดูปะการัง กล่าวว่า ตนได้หยุดทำงานมาเกือบครึ่งเดือนแล้ว เนื่องจากที่นิ้วเท้าขาวซึ่งเป็นแผลเกิดอาการอักเสบและบวม เนื่องจากติดเชื้อจากน้ำเน่าดังกล่าว และจากการที่ได้ไปพบแพทย์ได้ห้ามไม่ให้ไปสัมผัสน้ำเน่าเสียบริเวณดังกล่าวจนกว่าแผลที่ผิวหนังจะหายขาด ซึ่งเป็นอย่างนี้มาแล้ว 2 ครั้ง เนื่องจากต้องนำเรือเข้ามาจอดในลำคลองดังกล่าว 


และน้ำเสียที่เกิดขึ้นนั้นเป็นมานานแล้ว ที่ผ่านมาได้ร้องเรียนไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็หลายครั้งแต่ไม่ได้รับการแก้ไข ซึ่งสาเหตุของน้ำเสียนั้นเกิดการที่สถานประกอบการบนฝั่งได้มีการปล่อยน้ำเสียลงมาในลำคลองจากอดีตซึ่งมีสถานประกอบการไม่มากปัญหาจึงไม่มากเท่าปัจจุบันที่มีสถานประกอบการเพิ่มมากขึ้น จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เข้ามาแก้ไขด้วย มิเช่นนั้นก็จะส่งผลกระทบเพิ่มมากขึ้น 


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น