เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน 2556 ร.ต.อ.สมชาย หนูบุญ ร้อยเวร สภ.เมืองภูเก็ต ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า เกิดเหตุเพลิงไหม้อาคารพาณิชย์ ในซอยพัชนี 4 ต.รัษฎา อ.เมืองภูเก็ต ขอให้ประสานเจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารรภัย เพื่อให้รถดับเพลิงมาดับเพลิงด้วย หลังรับแจ้งก็ได้ประสานไปยังหน่วยป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เทศบาลตำบลรัษฎา พร้อมทั้งได้รายงานผู้บังคับบัญชาทราบ
จากนั้นก็ได้เดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วย พ.ต.ท.เชาว์ ผอมนะ รองผู้กำกับการ สภ.เมืองภูเก็ต ร.ต.อ.มานะ นิ่มนวล รอง สว.ป.สภ.เมืองภูเก็ต เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสายตรวจ ตำรวจชุมชนรัษฎาและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยทางเจ้าหน้าที่งานป้องกันฯ เทศบาลตำบลรัษฎา ใช้รถดับเพลิงจำนวน 2 คัน และรถน้ำ 1 คัน เข้าสกัดเพลิง โดยใช้เวลาประมาณ 20 นาที สามารถควบคุมเพลิงไว้ได้
ที่เกิดเหตุเป็นอาคารพาณิชย์ขนาด 2 ชั้น เลขที่ 10/142 หมู่ที่ 2 ต.รัษฎา อ.เมืองภูเก็ต ซึ่งเปิดเป็นร้านขายข้าวแกง ชื่อ “ข้าวแกงป้าม้วย ครัวคนใต้ นครศรีฯ (ปากพนัง)” ตรวจสอบพบต้นเพลิงมาจากครัวหลังบ้าน และลุกลามไปยังอาคารหลังติดกันเลขที่ 10/143 พนักงานผจญเพลิงได้ช่วยกันใช้น้ำฉีดสกัดเพลิงที่ลุกไหม้ดังกล่าว
โดยเจ้าหน้าที่ใช้เวลาประมาณ 20 นาทีก็สามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ และทำการปิดวาล์วถังแก๊สที่เป็นชนวนเกิดเพลิงไหม้ พร้อมยกถังแก็สจำนวน 4 ถังออกมาด้านนอก โดยไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต มีเพียงอุปกรณ์ในการทำครัว และวัสดุดิบที่จะใช้ในการประกอบอาหารเสียหายทั้งหมด นอกจากนี้ยังมีเพลิงลุกไหม้มายังห้องน้ำซึ่งอยู่ติดกัน และอาคารหลังติดกันทำให้มีกระเบื้องแตกได้รับความเสียหายส่วนหนึ่งด้วย
จากการสอบถามนางกิมม้วย เพชรนิล อายุ 56 ปี อยู่บ้านเลขที่ 148 ม.1 ต.เกาะทวด อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นเจ้าของร้านและอยู่ในที่เกิดเหตุ ทราบว่าก่อนเกิดเหตุก็ได้ทำอาหารเพื่อจำหน่ายตามปกติ ตั้งแต่เวลา 04.30 น.แต่ในระหว่างที่ทำการปรุงอาหาร 3 อย่าง คือ แกงส้ม ทอดปลาทูและต้มหมู โดยเปิดใช้แก๊สหุงต้มรวม 3 ถัง ไปพร้อมๆ กัน ระหว่างนั้นได้ยินเสียงแก๊สหุงต้มรั่วออกจากสายแก๊สสายหนึ่ง และมีประกายไฟออกมา
โดยไม่ทราบว่าแก็สรั่วออกมาจากถังใด จึงรีบชวนลูกสาววิ่งออกมาจากห้องครัว ไปอยู่ที่หน้าบ้าน ในขณะที่สามี คือนาย อำพล เพชรนิล ไม่ได้อยู่ภายในบ้าน เนื่องจากออกไปเลื่อนรถหน้าบ้านก่อนที่จะเกิดเหตุ
ทั้งนี้ทางพนักงานสอบสวนได้ทำการบันทึกและเก็บรายละเอียดต่างๆ ไว้เพื่อเป็นหลักฐาน และจะได้ทำการประสานเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานจังหวัดภูเก็ต เข้าทำการตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้งหนึ่งเพื่อหาสาเหตุเพลิงไหม้ที่ชัดเจนต่อไป
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น