เมื่อวันที่ 25 มิถุนายน 2556 ที่ห้องประชุมชั้น 3 เทศบาลนครภูเก็ต อ.เมือง จ.ภูเก็ต นางปุณยวีร์ ทองศิริเศรษฐ์ ประชาสัมพันธ์จังหวัดภูเก็ต เป็นประธานเปิดงานเสวนา “ภูเก็ตกับการเรียนรู้ของคนทั้งมวล” ซึ่งสำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดภูเก็ต จัดขึ้น
โดยมีนายชลำ อรรถธรรม ผู้อำนวยการเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา นายบัณฑูร ทองตัน ประธานคณะกรรมการสภาการศึกษาจังหวัดภูเก็ต น.ส.สมใจ สุวรรณศุภพนา นายกเทศมนตรีนครภูเก็ต และนางจุรี โก้สกุล ครูเชี่ยวชาญ โรงเรียนภูเก็ตปัญญานุกูล ร่วมเวทีเสวนา ซึ่งได้รับความสนใจจากผู้เกี่ยวข้อง ทั้งหน่วยงานภาครัฐ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ภาคประชาชน ประชาสังคม นักเรียน และสื่อมวลชน เข้าร่วม
สำหรับการจัดเสวนาดังกล่าว สืบเนื่องจากสำนักงานส่งเสริมสังคมแห่งการเรียนรู้และคุณภาพเยาวชน (สสค.)ได้คัดเลือกให้จังหวัดภูเก็ต เป็น 1 ใน 10 จังหวัดดีเด่น ในโครงการสังคมไทยร่วมกันคืนครูให้ศิษย์เชิดชู ยกย่องครูสอนดีภายใต้การดำเนินการของคณะกรรมการเพื่อคัดเลือกครูสอนดีและลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาจังหวัดและท้องถิ่นภูเก็ตจังหวัดภูเก็ต
โดยได้ตั้งเป้าหมายการขับเคลื่อนการศึกษาของจังหวัดให้เป็นสภาการศึกษาจังหวัด โดยการมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วนในสังคม เพื่อร่วมกันออกแบบการจัดการศึกษาที่ตอบโจทย์คนในท้องถิ่นและการจัดการศึกษาอย่างประณีต ที่สอดรับกับคนทุกกลุ่มภายใต้การสนับสนุนของท้องถิ่น โดยมีหลักการทำงานที่สำคัญ คือ การเปิดให้การศึกษาทุกฝ่ายสามารถมีส่วนร่วมในการจัดการศึกษาตรงกับศักยภาพของเด็กและเยาวชน
นายชลำ อรรถธรรม ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาจังหวัดภูเก็ต กล่าวตอนหนึ่งในเวทีเสวนาฯ ว่า การมีส่วนร่วมเป็นจุดอ่อนของการศึกษา แม้ว่ากฎหมายจะเขียนไว้ชัดเจน ว่า หลักการจัดการศึกษาต้องให้สังคมทุกภาคส่วนเข้ามีส่วนร่วม แต่ในทางปฏิบัติการดำเนินการส่วนนี้ถูกละเลยมาโดยตลอด และมักมองว่าโรงเรียนจะต้องรับผิดชอบ ซึ่งไม่ถูกต้อง เพราะการพัฒนาคนไม่ได้พัฒนาองค์ความรู้อย่างเดียว แต่ต้องพัฒนาองค์รวม ในทุกๆ ด้าน และปัจจัยหลักที่จะทำให้ลูกหลานได้รับการพัฒนาทางการศึกษา จนนำไปสู่การประสบความสำเร็จในทุกๆ เรื่อง มาจากพ่อแม่และผู้ปกครองเป็นสำคัญ
สิ่งหนึ่งที่ทางสำนักงานเขตพื้นที่ฯ กำลังดำเนินการ คือ การแสวงหาความร่วมมือและสร้างความเข้าใจกับภาคีเครือข่าย โดยเฉพาะผู้ปกครองที่จะต้องเข้ามีส่วนร่วม โดยระดมทีมผู้บริหารทั้งจังหวัดภูเก็ตในส่วนที่รับผิดชอบทั้ง 49 โรงเรียน เพื่อที่จะเปลี่ยนแนวคิดของผู้ปกครองที่ยังมีความคิดว่า ถ้าเด็กไม่ดีก็ต้องโทษโรงเรียน แนวทางการทำงานเคยได้มีการทดลองนำร่องที่โรงเรียนวัดสุวรรณคีรีวงศ์ โดยเชิญผู้ปกครองมาสร้างความเข้าใจ ให้รู้ว่าตัวเอง คือ บุคคลสำคัญที่สุดที่จะทำให้เด็กมีคุณภาพ เพราะเมื่อเทียบสัดส่วนเวลาที่เด็กอยู่กับผู้ปกครองจะมีมากกว่าอยู่ที่โรงเรียน
ขณะที่นายบัณฑูร ทองตัน ประธานคณะกรรมการสภาการศึกษาจังหวัดภูเก็ต กล่าวภายหลังการเสวนาฯ ว่า ได้นำเสนอ สสค.ว่า จริงๆ แล้วเรายังมีปัญหา แม้ว่าการศึกษาของเด็กภูเก็ตจะมีค่าโอเน็ตดีกว่ามาตรฐานทั่วไป รวมถึงการเรียนต่อจะสูงกว่าที่อื่น แต่เรายังมีปัญหาสังคมที่เกิดขึ้นกับเด็กไม่น้อย เช่น เด็กตั้งครรภ์ก่อนวัยเรียน เด็กติดยาเสพติด เด็กติดเกม เป็นต้น ในส่วนของสภาการศึกษา ได้ทำโครงการดังกล่าวขึ้น เพื่อแก้ไขปัญหาเหล่านี้ เนื่องจากการทำงานขณะนี้เป็นการซ้อนกันระหว่างคณะทำงานที่ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตแต่งตั้ง
ในเรื่องการคัดเลือกครูสอนดี กับที่เราทำขึ้นมาเอง คือ สภาการศึกษา ซึ่งได้รับการสนับสนุนงบประมาณจาก สสค.โดยมีระยะเวลาดำเนินโครงการเพียง 17 เดือน และจะสิ้นสุดต้นปี 2557 ซึ่งได้มีการเตรียมการรองรับ คือ ทำเป็นมูลนิธิสภาการศึกษาที่จะเข้ามาช่วยค่าใช้จ่าย ช่วยกันดูแลในการที่จะระดมการมีส่วนร่วมของคนทั้งจังหวัดภูเก็ต ให้เข้ามีส่วนร่วมในการพัฒนาการศึกษา เพราะนี่คือ หน้าที่ที่ทุกคนจะต้องช่วยกัน การระดมความคิดเห็นของคนภูเก็ตทั้งมวล คือ เรื่องสำคัญที่ต้องช่วยกันยกระดับการศึกษา
ขณะที่การสะท้อนปัญหาของภาคส่วนต่างๆ นั้น นายบัณฑูร กล่าวว่า จากเวทีเสวนาได้สะท้อนปัญหาความไม่เท่าเทียมกันของการศึกษา เช่น โรงเรียนในเขตเทศบาลนครภูเก็ต มีคนจากนอกพื้นที่เข้ามาเรียนจำนวนมาก และในพื้นที่เองคนก็หายไป เป็นต้น ตนได้นำเสนอว่าความจริงแล้วในการที่จะทำตรงนี้ น่าเป็นเรื่องของการที่มาพูดคุยแลกเปลี่ยนเรียนรู้กันในกลุ่มของผู้บริหารท้องถิ่น ว่า เพราะเหตุใดโรงเรียนบางโรงเรียนถึงได้รับความนิยมมาก อาจจะเป็นเพราะความคิดเห็นทางด้านการศึกษาของผู้บริหารท้องถิ่น มองไม่เหมือนกัน แต่ถ้าได้มาแลกเปลี่ยนเรียนรู้กันแล้วทำโมเดลที่ได้ผล ทำให้คนพอใจก็น่าจะประสบความสำเร็จ เพื่อลดปัญหานักเรียนจากต่างพื้นที่ย้ายเข้ามาเรียนในเขตเมืองเป็นจำนวนมาก
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น