จำหน่ายอุปกรณ์แต่งรถ

วันเสาร์ที่ 23 มีนาคม พ.ศ. 2556

106 โรฮิงญา ขึ้นเกาะโหลนก่อนถูกชาวบ้านจับ



เมื่อวันที่ 23 มีนาคม 2556 ร.ต.อ.จิรยุทธิ์ อ่อนทอง รอง สว.บก.รน.8 (ตำรวจน้ำ) ได้รับแจ้งจากนายมานิต โยธารักษ์ ผู้ใหญ่บ้าน ม.3 ต.ราไวย์ อ.เมือง จ.ภูเก็ต ว่า ชาวบ้านได้ช่วยเหลือชาวโรฮิงญาซึ่งเครื่องยนต์เรือเสียขึ้นฝั่งที่บ้านเกาะโหลน ม.3 ต.ราไวย์ อ.เมืองภูเก็ต จำนวน 106 คน ขอให้เดินทางไปตรวจสอบและดำเนินการตามกฎหมายด้วย 


หลังจากได้รับแจ้งได้รายงานผู้บังคับบัญชาทราบตามลำดับชั้น และได้นำเรือตรวจการณ์ 522 เดินทางไปตรวจสอบ พร้อมด้วยนายอรุณ โสฬส นายกเทศมนตรีตำบลราไวย์ นายศิวกร ไชยภัคดี, นายอุทัยวุฒิ หย่าหลง ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ม.3 ต.ราไวย์ ตลอดจนเจ้าหน้าที่จากศูนย์ช่วยเหลือนักท่องเที่ยวองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต พร้อมกันนี้ยังได้ให้ความช่วยเหลือตามหลักมนุษยธรรมในการจัดอาหารและน้ำดื่มให้ เนื่องจากทั้งหมดอยู่ในสภาพที่หิวและอ่อนเพลีย 


ที่บริเวณสะพานท่าเทียบเรือเกาะโหลนอยู่ห่างจากท่าเทียบเรืออ่าวฉลอง เกาะภูเก็ต ประมาณ 4 กิโลเมตร ต้องเดินทางด้วยเรือใช้เวลาประมาณ 20 นาที พบเรือชาวโรฮิงญาแบบชั้นเดียว ขนาดความยาวประมาณ 25 เมตร ลึกประมาณ 15 เมตร จอดเสียอยู่ 1 ลำ และบริเวณที่พักผู้โดยสารพบชาวโรฮิงญาจำนวน 52 คน นั่งอยู่ในสภาพที่หิวและอ่อนเพลีย สอบถามทราบว่ายังมีชาวโรฮิงญาที่หลบหนีอยู่ทางฝั่งตะวันตกของเกาะอีกจำนวน 43 คน ซึ่งมีทั้งผู้ชายและผู้หญิง เจ้าหน้าที่จึงนำเรือหางยาวออกไปตามหา 


เมื่อชาวโรฮิงญาเห็นเจ้าหน้าที่ก็ได้วิ่งหลบหนีเข้าไปในป่าละเมาะบนเกาะ ทิ้งไว้เฉพาะเด็กและคนชรา เจ้าหน้าที่ได้ให้คนชราเป็นล่ามในการบอกให้ชาวโรฮิงญาทั้งหมดออกมาจากป่าละเมาะ และมารวมกันอยู่ที่บริเวณที่พักของสะพานท่าเทียบเรือเกาะโหลน ระหว่างนั้นเจ้าหน้าที่ทราบว่า มีผู้พบชาวโรฮิงญาเดินอยู่ในพื้นที่ ต.วิชิต อีกจำนวน 11 คน ซึ่งเป็นกลุ่มเดียวกันกับชาวโรฮิงญาที่พบที่บ้านเกาะโหลน โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.วิชิต อ.เมืองภูเก็ต ได้ควบคุมตัวไว้แล้ว 


จากการสอบสวนทราบว่า ชาวโรฮิงญาทั้งหมดได้เดินทางออกจากรัฐยะไข่ ประเทศพม่า เมื่อวันที่ 22 มกราคมที่ผ่านมา เพื่อจะเดินทางไปยังประเทศมาเลเซีย แต่วันที่ 26 มีนาคม 2556 หลงทิศได้ขับเรือเข้าไปในเขตน่านน้ำของประเทศอินเดีย และถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจของประเทศอินเดียจับกุมดำเนินคดี และได้มีการผลักดันออกมาเมื่อวันที่ 19 มีนาคม 2556 จึงนำเรือออกมาเพื่อเดินทางต่อไปยังประเทศมาเลเซีย และเมื่อถึงน่านน้ำของประเทศไทย เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา (23 มี.ค.) เครื่องยนต์เรือเสีย มีชาวบ้านมาพบและให้ความช่วยเหลือมาที่เกาะโหลนดังกล่าว 


นายฮุลาบิน อายุ 35 ปี หนึ่งในชาวโรฮิง กล่าวว่า ตนและเพื่อนชาวโรฮิงญาได้เดินทางออกจากศูนย์อพยพในรัฐยะไข่ ทางตอนเหนือของพม่าเมื่อวันที่ 22 มกราคม 2556 และได้หลงทางถูกเจ้าหน้าที่ทหารเรืออินเดียจับกุมที่บริเวณหมู่เกาะนิโคบาร์ ประเทศอินเดีย วันที่ 19 มีนาคม 2556 ที่ผ่านมา และเจ้าหน้าที่ทหารเรืออินเดียได้ทำการพลักดันออกสู่น่านน้ำทะเลอีกครั้ง กระทั่งเดินทางเข้ามาในเขตประเทศไทย จนถึงบริเวณหน้าเกาะโหลนดังกล่าว และได้รับความช่วยเหลือจากชาวบ้านบนเกาะ 


อย่างไรก็ตามนับตั้งแต่ในปี 2556 มีเรือชาวโรฮิงญาหลงเข้ามาเขตน่านน้ำ จ.ภูเก็ต รวม 4 ครั้ง ครั้งแรกเมื่อวันที่ 1 มกราคม 2556 จำนวน 73 ราย เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 29 มกราคม 2555 จำนวน 205 ราย เข้ามาในน่านน้ำจังหวัดภูเก็ตทางตอนเหนือของเกาะราชา เจ้าหน้าที่ทางการไทยผลักดันออกนอกประเทศในทันทีหลังจากให้ความช่วยเหลือในด้านมนุษยธรรมแล้ว วันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2556 จำนวน 8 ราย บริเวณหมู่บ้านกมลา เจ้าหน้าที่ดำเนินคดีหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย และครั้งเป็นครั้งล่าสุด (23 มี.ค.) จำนวน 106 ราย 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น