เมื่อวันที่ 11 เมษายน 2556 ที่สถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดภูเก็ต แห่งที่ 2 ต.รัษฎา อ.เมือง จ.ภูเก็ต นายศุภชัย โพชนุกูล นายอำเภอเมืองภูเก็ต ร่วมกับนายธีระยุทธ ประเสริฐผล ผู้อำนวยการสำนักงานขนส่งจังหวัดภูเก็ต นายภูดิท รักษาราษฎร์ นายกเทศมนตรีตำบลรัษฎา และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง
ร่วมตรวจความพร้อมของรถ พนักงานขับรถ พนักงานประจำรถโดยสารประจำทาง เพื่อสร้างความปลอดภัยให้กับผู้โดยสารในช่วงเทศกาลสงกรานต์ พร้อมกันนี้ยังได้มีการตรวจแอลกอฮอลล์ และสารเสพติดพนักงานขับรถโดยสารประจำทาง พนักงานประจำรถโดยสาร และผู้ให้บริการรถรับจ้างภายในสถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดภูเก็ต ซึ่งเป็นหนึ่งในมาตรการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ระหว่างวันที่ 11 – 17 เมษายน 2556 เพื่อให้ผู้โดยสารได้รับความปลอดภัยสูงสุด
นายธีระยุทธ กล่าวว่า เนื่องจากเป็นวันหยุดยาวในช่วงเทศกาลสงกรานต์ซึ่งจะมีผู้มาใช้บริการรถยนต์โดยสารประจำทางเพื่อเดินทางกลับภูมิลำเนาเป็นจำนวนมาก ดังนั้นเพื่อเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนว่าจะสามารถเดินทางถึงที่ปลายอย่างปลอดภัย จึงได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบความพร้อมของรถโดยสาร เช่น ระบบไฟท้าย ไฟเลี้ยว ไฟเบรก ล้อยาง ค้อนทุบกระจก ถังดับเพลิง เป็นต้น
ซึ่งเป็นอุปกรณ์สำคัญที่จะต้องมีความพร้อม การตรวจความพร้อมของพนักงานขับรถและพนักงานประจำรถ รวมทั้งการเน้นย้ำสำหรับเส้นทางระยะไกลที่จะต้องมีพนักงานขับรถ 2คน เพื่อสลับกัน โดยก่อนที่จะนำรถออกจากสถานีก็จะต้องมีการรายงานตัวต่อนายสถานีก่อนทุกครั้ง โดยจะมีจุดตรวจรถอยู่ที่ จ.ชุมพร ซึ่งรถทุกคันจะต้องมีการหยุดรถเพื่อรายงานตัวกับทางเจ้าหน้าที่ เพื่อเป็นการยืนยันและสร้างความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัยให้กับผู้โดยสาร
ขณะที่นายจิรวัฒน์ นมาตร์ ปลัดอำเภอเมืองภูเก็ต กล่าวว่า ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ทางอำเภอเมืองภูเก็ต ได้เข้มงวดเรื่องของพนักงานขับรถ เด็กรถ และคนขับรถจักรยานยนต์รับจ้างทั่วไป ที่ให้บริการอยู่ภายในสถานีขนส่งฯ ซึ่งได้มีการตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์ และตรวจหาสารเสพติดในปัสสาวะ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้โดยสาร รวมทั้งยังเป็นการดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาลที่ได้ดำเนินการมาเกือบทุกปี
อย่างไรก็ตามในวันแรก (11 เม.ย.) ของการเรียกตรวจดังกล่าว พบพนักงานขับรถมีสารเสพติดในปัสสาวะจำนวน 1 ราย หลังจากนี้ก็จะนำพนักงานขับรถรายดังกล่าวเข้ารับการบำบัด เนื่องจากรับสารภาพ จึงถือว่าเป็นผู้ป่วย แต่หลังจากการบำบัดแล้ว หากพบว่ากลับมากระทำความผิดซ้ำอีก ก็จะดำเนินคดีตามกฎหมาย ดังนั้นจึงขอความร่วมมือพนักงานขับรถ เด็กรถ รวมถึงผู้ขับรถรับจ้างทั่วไป ต้องไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด และต้องไม่ดื่มสุราขณะปฏิบัติงานด้วย นายจิรวัฒน์กล่าว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น