จำหน่ายอุปกรณ์แต่งรถ

วันอาทิตย์ที่ 7 เมษายน พ.ศ. 2556

นอภ.กะทู้ นำกำลังยึดรถแบ็คโฮและไม้กฤษณา



เมื่อวันที่ 6 เมษายน 2556 นายวีระ เกิดศิริมงคล นายอำเภอกะทู้ จ.ภูเก็ต พร้อมด้วยนายราเชนทร์ สงแดง, นายวิสุทธิ์ โรมินทร์ ปลัดอำเภอกะทู้ และเจ้าหน้าที่อาสาสมัคร 6 นาย นายไพศาล หนูพิชัย หัวหน้าหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ ภก.2 (ภูเก็ต) พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ป่าไม้ 


เข้าตรวจสอบบริเวณชุมชนสี่กอ หมู่ที่ 6 ต.กะทู้ อ.กะทู้ หลังได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า มีการบุกรุกโดยการใช้รถแบ็คโฮเข้าไปตักหน้าดินและทำถนนขึ้นไปใน บริเวณเขาควนหว้าเทือกเขากมลา ต.กะทู้ อ.กะทู้ ซึ่งมีสภาพลาดชัน พบมีการทำถนนคอนกรีตขึ้นไประยะทางประมาณ 2 กม. และพบรถแบ็คโฮกำลังขุดตักหน้าดินอยู่ จึงได้แสดงตัวและควบคุมตัวคนขับรถแบ็คโฮไว้ เนื่องจากมีการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า พื้นที่ดังกล่าวน่าจะเป็นป่าสงวนฯ และจากการสอบถามคนขับรถดังกล่าวบอกว่า ได้รับการว่าจ้างจากบริษัทแห่งหนึ่งให้มาตักหน้าดิน ซึ่งไม่ทราบว่าอยู่ในเขตป่าฯ 


นอกจากนี้จากการตรวจสอบบริเวณใกล้เคียง ซึ่งคาดว่าจะอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติเทือกเขากมลา พบมีการตัดโค่นไม้ขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นไม้กฤษณาขนาดประมาณ 5 คนโอบจำนวน 1 ต้น โดยได้มีการถูกออกเป็นท่อนๆประมาณ 4 ท่อน มีความยาวท่อนละ 5 - 10 เมตร และยังพบไม้ตีนเป็ดขนาดใหญ่ประมาณ 5 คนโอบเช่นกัน ถูกตัดวางเรียงรายจำนวน 4 ท่อน หากมีการนำไปแปรรูปคิดเป็นมูลค่านับล้านบาท โดยให้เจ้าหน้าที่ป่าไม้ตรวจสอบและตีตราเพื่อยึดไว้ดำเนินคดีต่อไป 


นายวีระ กล่าวว่า จากการลงตรวจสอบพื้นที่ตามที่ได้มีการร้องเรียน เบื้องต้นได้ควบคุมตัวคนขับรถแบ็คโฮไว้ก่อน เพื่อตรวจสอบว่าที่ดินดังกล่าวมีผู้นำเอกสารสิทธิ์มาแสดงหรือไม่ หากมีก็จะปล่อยตัวไป หากไม่ถูกต้องหรือไม่มีเอกสารสิทธิ์ก็จะต้องดำเนินคดีทั้งในส่วนของคนขับและผู้จ้างวาน นอกจากนี้จะให้เจ้าหน้าที่ป่าไม้ตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้งว่าพื้นที่ดังกล่าวอยู่ในเขตป่าสงวนหรือไม่อย่างไร


แต่เบื้องต้นจากเอกสารของทางอำเภอและการวัดตำแหน่งพิกัดพบพื้นที่ดังกล่าวอยู่ในเขตป่าสงวนฯ ส่วนของการตัดไม้กฤษณาและไม้ตีนเป็ดนั้น ก็มอบให้เจ้าหน้าที่ป่าไม้ตีตราไม้และตรวจยึด พร้อมทั้งแจ้งข้อกล่าวหากับผู้แสดงตัวเป็นเจ้าของที่ดิน เนื่องจากไม้ทั้งสองประเภทเป็นไม้สงวน หากตัดโค่นถือว่ามีความผิด ส่วนจะเป็นการบุกรุกที่ดินหรือไม่นั้น ต้องรอให้เจ้าหน้าที่ป่าไม้ตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง หากมีผู้อ้างการครอบครองและมีการนำเอกสารสิทธิ์มาแสดงก็จะต้องตรวจสอบความถูกต้องต่อไป



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น