เมื่อวันที่ 12 เมษายน 2556 ที่บริเวณท่าเทียบเรือรัษฎา ต.รัษฎา อ.เมือง จ.ภูเก็ต นายภูริพัฒน์ ธีระกุลพิศุทธ์ ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค สาขาภูเก็ต และ พ.ต.ท.ฉัตรชัย ศักดิ์ดี สารวัตรตำรวจน้ำ 3 กองบังคับการ 8 กองบังคับการตำรวจน้ำ (ตำรวจน้ำภูเก็ต) พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค สาขาภูเก็ต และเจ้าหน้าที่ตำรวจภูเก็ต
ตรวจความพร้อมของท่าเทียบเรือรัษฎา เรือโดยสารท่องเที่ยวที่นำนักท่องเที่ยวไปท่องเที่ยวตามเกาะแก่งต่างๆ เช่น เกาะพีพี จ.กระบี่ เป็นต้น เพื่อรองรับการเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศในช่วงวันหยุดเทศกาลสงกรานต์ประจำปี 2556 ซึ่งบรรยากาศบริเวณท่าเทียบเรือยังไม่คึกคักเท่าที่ควร โดยนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะเป็นชาวต่างชาติซึ่งเดินทางไปเกาะพีพี จ.กระบี่
สำหรับการตรวจสอบท่าเทียบเรือในครั้งนี้ ได้เน้นย้ำการบรรทุกเกินน้ำหนักที่กำหนดไว้ การมีใบอนุญาตใช้เรือ ใบอนุญาตนายท้ายเรือ อุปกรณ์ช่วยชีวิต โดยเฉพาะเสื้อชูชีพซึ่งจะต้องมีเพียงพอกับจำนวนผู้โดยสาร อุปกรณ์ดับเพลิงซึ่งจะต้องมีประจำทุกชั้นของเรือ และอุปกรณ์อื่นๆ รวมถึงความพร้อมของท่าเทียบเรือในการให้บริการผู้โดยสาร ซึ่งยังไม่พบความผิดปกติ และผู้ประกอบการให้ความร่วมมือปฏิบัติตามกฎหมายเป็นอย่างดี
อย่างไรก็ตามนายภูริพัฒน์ กล่าวภายหลังการลงตรวจความพร้อมต่างๆ ในเรือโดยสาร ว่า เนื่องจากเป็นช่วงวันหยุดในช่วงเทศกาล และมีผู้มาใช้บริการท่าเทียบเรือมากกว่าปกติ จึงได้ร่วมกับทางตำรวจน้ำภูเก็ตออกตรวจเพื่อสร้างความเชื่อมั่นการใช้บริการเรือโดยสาร โดยเน้นตรวจสอบเรื่องความปลอดภัยของเรือโดยสารที่ออกจากท่าเทียบเรือรัษฎา และผลจากการตรวจสอบพบว่าเรือทุกลำที่ออกจากท่าฯ มีความเรียบร้อยดีมีใบอนุญาตใช้เรือถูกต้อง มีความคงทนทะเลถูกต้อง มีอุปกรณ์ช่วยชีวิตถูกต้อง มีอุปกรณ์ดับเพลิงถูกต้องเรียบร้อย และไม่มีการบรรทุกน้ำหนักเกินกฎหมายกำหนด
“ปีนี้จำนวนผู้โดยสารไม่มาก เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยมีเรือโดยสารขนาดใหญ่ออกจากท่าเทียบเรือรัษฎา ประมาณ 3-4 ลำเท่านั้น ซึ่งคงต้องดูหลังจากนี้ ทราบจากเจ้าของเรือว่าจะมีผู้โดยสารเพิ่มขึ้น”
นายภูริพัฒน์ กล่าวด้วยว่า ในเรื่องการรักษาความปลอดภัยนั้นเป็นการทำงานร่วมกันระหว่างสำนักงานเจ้าท่าฯ กับตำรวจน้ำภูเก็ต ซึ่งนอกจากการตรวจตราบริเวณท่าเทียบเรือแล้ว ในส่วนของตำรวจน้ำก็จะมีการออกตรวจในทะเลด้วย ซึ่งทางอธิบดีกรมขนส่งทางน้ำและผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต (นายไมตรี อินทุสุต) ได้กำชับให้ดูแลอย่างเต็มที่ในช่วงเทศกาลนี้ ซึ่งความปลอดภัยทางน้ำนั้นได้มีการตั้งเป้าไว้ในเรื่องของอุบัติเหตุต้องเป็นศูนย์
อย่างไรก็ตามนายภูริพัฒน์ กล่าวด้วยว่า ในส่วนการตรวจสภาพตัวเรือนั้นได้มีการดำเนินการอย่างต่อเนื่องเป็นประจำปีอยู่แล้ว โดยเรือทุกลำต้องมีใบอนุญาตใช้เรือถูกต้อง และเรือต้องผ่านการตรวจสภาพทุกปีทำให้เรือมีความคงทนทะเลจึงจะออกใบอนุญาตให้ และต้องมีอุปกรณ์ช่วยชีวิตครบตามจำนวนผู้โดยสาร อุปกรณ์ดับเพลิงและอุปกรณ์อื่นๆ ตามที่กฎหมายกำหนด
ซึ่งนอกจากการตรวจเรือโดยสารขนาดใหญ่แล้ว ในส่วนของเรือ สปี๊ดโบ๊ทก็มีการสุ่มตรวจเช่นเดียวกัน โดยตัวเลขเรือจดทะเบียนทุกประเภทของจังหวัดภูเก็ตมีประมาณ 4,000 กว่าลำ ซึ่งในจำนวนดังกล่าวเป็นเรือโดยสารทุกขนาดจำนวน 1,500 ลำ และสปี๊ดโบ๊ทมีจำนวน 700-800 ลำ
ทั้งนี้นายภูริพัฒน์ ได้กล่าวฝากไปใช้ผู้ใช้บริการเรือโดยสาร ว่า หากเรือโดยสารกำหนดจำนวนผู้โดยสารไว้เท่าใดก็ควรจะเป็นไปตามจำนวนที่กำหนด หากพบว่ามีจำนวนหนาแน่นเกินไปก็ให้รอใช้บริการเรือลำอื่นแทน เพื่อความปลอดภัย ดังนั้นหากต้องการท่องเที่ยวอย่างมีความสุขก็จะต้องดำเนินการตามที่กฎหมายกำหนด เช่น สวมชูชีพในระหว่างนั่งเรือ ไม่ลงเรือที่มีจำนวนผู้โดยสารหนาแน่นเกินไป เป็นต้น
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น