เมื่อวันที่ 9 เมษายน 2556 ห้องจามจุรี โรงแรมภูเก็ตเมอร์ลิน อ.เมือง จ.ภูเก็ต นายชวลิต ณ นคร รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต (อบจ.ภูเก็ต) เป็นประธานเปิดงานวันผู้สูงอายุจังหวัดภูเก็ต ประจำปี 2556 ซึ่งทาง อบจ.ภูเก็ต ร่วมกับสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดภูเก็ต และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จัดขึ้น
โดยมีนายสมยศ วิจักรคณาวุธ รองนายกเทศมนตรีตำบลวิชิต คณะที่ปรึกษานายก อบจ.ภูเก็ต สมาชิกสภา อบจ.ภูเก็ต นายวัชรินทร์ ปฐมวัฒนพงศ์ รองปลัด อบจ.ภูเก็ต ตัวแทนพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดภูเก็ต ข้าราชการ พนักงานเจ้าหน้าที่ อบจ.ภูเก็ต โรงพยาบาล อบจ.ภูเก็ต ตลอดจนผู้สูงอายุในจังหวัดภูเก็ตเข้าร่วมจำนวน 1,500 คน
โอกาสเดียวกันนี้ยังได้มีการมอบเกียรติบัตรผู้สูงอายุดีเด่นจำนวน 20 คน จากชมรมผู้สูงอายุในพื้นที่ต่างๆ ของจังหวัดภูเก็ต นอกจากนี้ยังมีการรดน้ำดำหัว เพื่อขอพรจากตัวแทนผู้สูงอายุที่มาร่วมกิจกรรม การบรรยายพิเศษหัวข้อ “ผู้สูงวัย ใจแข็งแกร่ง สุขภาพแข็งแรง” การตรวจสุขภาพของผู้สูงอายุที่เข้าร่วมโครงการจากโรงพยาบาล อบจ.ภูเก็ต และสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดภูเก็ตด้วย
นายวัชรินทร์ ปฐมวัฒนพงศ์ รองปลัด อบจ.ภูเก็ต กล่าวว่า ด้วย อบจ.ภูเก็ต ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของผู้สูงอายุ ซึ่งเป็นบุคคลที่ได้อุทิศแรงกายแรงใจสร้างผลงานที่มีคุณค่าต่อสังคมไทยมาโดยตลอดและยังเป็นบุคคลที่สำคัญในครอบครัว ดังนั้นเพื่อเป็นการสนับสนุนให้ผู้สูงอายุได้มีกิจกรรมต่างๆ ร่วมกันตามศักยภาพของตนเองอย่างมีคุณค่าและศักดิ์ศรี เพื่อยกย่องเชิดชูเกียรติแก่ผู้สูงอายุที่ทำคุณประโยชน์ให้แก่สังคมและอนุรักษ์ประเพณีวัฒนธรรมที่ดีงามให้อยู่คู่สังคมไทยตลอดไป
ขณะที่นายชวลิต ณ นคร รองนายก อบจ.ภูเก็ต กล่าวว่า ผู้สูงอายุได้รับการยกย่องว่าเป็นปูชนียบุคคลของสังคม และคนไทยได้รับการปลูกฝังให้ยกย่องเชิดชูให้ความเคารพเชื่อฟังและแสดงความกตัญญูกตเวทีต่อผู้สูงอายุมาตั้งแต่โบราณกาล เป็นขนบธรรมเนียมประเพณีอันดีงามของไทยสืบทอดกันมายาวนาน เป็นสิ่งที่จะยึดโยงให้วัฒนธรรมนี้ยังคงดำรงอยู่โดยไม่เสื่อมสลายไปจากสังคมไทย
ทั้งนี้เนื่องมาจากผู้สูงอายุทุกคนล้วนเป็นมีความสำคัญในการทำคุณประโยชน์ให้แก่ชาติบ้านเมืองมาอย่างต่อเนื่องยาวนาน เป็นร่มโพธิ์ร่มไทรของบุตรหลาน เป็นคลังปัญญาของสังคมของสังคมและเป็นหลักชัยของครอบครัว ประสบการณ์และภูมิปัญญาของท่านได้นำมาหล่อหลอมให้เป็นกรอบและเป็นแบบอย่างแนวทางของสังคมไทย ทำให้สังคมไทยมีความเข้มแข็งและมีเอกลักษณ์ที่สำคัญจนถึงปัจจุบัน
เหนือสิ่งอื่นใดผู้สูงอายุทุกคนเป็นผู้ที่ทรงคุณค่า เป็นผู้ที่อุดมไปด้วยความรู้และประสบการณ์ที่หลากหลาย เป็นผู้รอบรู้อย่างลุ่มลึก เป็นผู้ที่สามารถมองเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นในปัจจุบันได้อย่างทะลุปรุโปร่ง หากเพียงลูกหลานใส่ใจ ไม่ตั้งกำแพงกั้นระหว่างความเก่ากับความใหม่ ทุกคนจะได้ประโยชน์และภูมิรู้ที่คุ้มค่าอย่างดียิ่ง ดังนั้นผู้เป็นลูก เป็นหลานจึงควรที่จะได้เอาใจใส่ดูแลท่านให้ดีเหมือนกับที่ท่านดูแลเรา นายชวลิตกล่าว
และกล่าวด้วยว่า
ดังนั้นการจัดงานวันผู้สูงอายุจึงเป็นความแรงร่วมใจที่สะท้อนให้เห็นว่า สังคมไทยยังมีความตระหนักในคุณค่าและความสำคัญของผู้สูงอายุ ที่จะทำให้ผู้สูงอายุมีกำลังใจที่จะสร้างสรรค์ ทำคุณประโยชน์ให้แก่สังคมต่อไป ขณะเดียวกันถือเป็นโอกาสหนึ่งที่จะได้เน้นย้ำหรือกระตุ้นเตือนสาธารณชนได้ร่วมกันแสดงออกถึงความกตัญญูกตเวทีต่อผู้สูงอายุทั้งภายในครอบครัวและในสังคม เพื่อเชื่อมโยงสายใยความผูกพันระหว่างผู้สูงอายุกับคนวัยต่างๆ ไม่ให้ขาดหายหรือลดคุณค่าไป
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น