เมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2556 ที่สถานีตำรวจท่องเที่ยวป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต พล.ต.ต.รอย อิงคไพโรจน์ ผู้บังคับการตำรวจท่องเที่ยว (ผบก.ทท.) พร้อมด้วย พ.ต.อ.ยศวีร์ พรพีรพาน ผู้กำกับการ 5 กองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว (ผกก.5 บก.ทท.) และ พ.ต.ต.อุรัมพร ขุนเดชสัมฤทธิ์ สว.สทท.2 กก.5 บก.ทท.ได้มีการปล่อยแถวสายตรวจตำรวจในสังกัด และอาสาสมัครตำรวจท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ จำนวน 30 นาย
เพื่ออำนวยความสะดวกและสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยวบริเวณชายหาดป่าตอง รวมทั้งการชี้แจงทำความเข้าใจกับผู้ประกอบการด้านเจ็ทสกีบริเวณชายหาดดังกล่าว ตลอดจนตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีนักท่องเที่ยวชาวจีน 2 รายร้องเรียนไปยังสถานกงสุลใหญ่สาธารณรัฐประชาชนจีนประจำสงขลา ว่าถูกผู้ประกอบการเจ็ทสกีเอารัดเอาเปรียบเรียกค่าซ่อมเจ็ทสกีที่เกิดจากอุบัติเหตุเกินความเป็นจริง
โดยมีนายนุชา เพ็ชรวิมล รองประธานเจ็ทสกีหาดป่าตอง ชี้แจงข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น พร้อมแสดงภาพถ่ายเจ็ทสกีลำที่นักท่องเที่ยวดังกล่าวเช่าไปไปและเกิดอุบัติเหตุเสียหายทั้งลำ คิดเป็นมูลค่านับแสนบาท ตลอดจนการแสดงป้ายแสดงราคาในการเช่าเจ็ทสกีขนาดต่างๆรวมทั้งสัญลักษณ์การได้รับอนุญาตอย่างถูกต้องตามกฎหมายจากหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้อง รวมถึงการทำสัญญาการเช่าที่ได้ระบุรายละเอียดต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง กรณีที่เกิดอุบัติเหตุไว้อย่างชัดเจน พร้อมทั้งบริษัทประกันภัยที่จะเข้ามาดูแลภายหลังการเกิดอุบัติเหตุแต่ละครั้ง
นายนุชา เพ็ชรวิมล รองประธานเจ็ทสกีหาดป่าตอง ได้ชี้แจงกับผู้บังคับการตำรวจท่องเที่ยว พร้อมแสดงภาพถ่ายเจ็ทสกีที่ได้รับความเสียหาย โดยเฉพาะลำที่มีการนำไปชนกับเรือยอช์ท ว่า ก่นที่จะให้นักท่องเที่ยวเช่าเจ็ทสกีออกไปขับขี่นั้น ได้มีการชี้แจงทำความเข้าใจ รวมทั้งมีเอกสารการทำสัญญาเป็นลายลักษณ์อักษรและมีรูปแบบที่ชัดเจน ตลอดจนวิธีการใช้งานเจ็ทสกีด้วย แต่มีนักท่องเที่ยวบางรายมักไม่ทำตามคำแนะนำ จึงก่อให้เกิดอุบัติเหตุตามมา
ซึ่งเมื่อเกิดอุบัติเหตุแล้วก็จะมีทางบริษัทประกันภัยมาประเมินค่าเสียหายเหมือนกับกรณีของรถยนต์ทุกประการ ซึ่งการร้องเรียนของนักท่องเที่ยวดังกล่าวไม่เป็นธรรมกับผู้ประกอบการ เพราะก่อนนำเจ็ทสกีออกไปก็ได้มีการชี้แจงรายละเอียดและมีการทำบรรทุกตามแบบฟอร์มอย่างชัดเจน โดยเฉพาะกรณีของเจ็ทสกีที่ไปชนกับเรื่องยอช์ทนั้นเสียหายทั้งลำ จึงต้องขอความเป็นธรรมเช่นกัน การเรียกค่าซ่อมหรือค่าเสียหายจะมีมาตรฐานของความเสียหายมากน้อย โดยมีบริษัทประกันภัยเป็นผู้ดำเนินการ
ขณะที่พล.ต.ต.รอย อิงคไพโรจน์ ผบก.ทท.กล่าวภายหลังการพูดคุยกับตัวแทนผู้ประกอบการแล้ว ว่า การลงพื้นที่นั้น เพื่อมาดูในเรื่องของผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวในพื้นที่ป่าตอง โดยเฉพาะในเรื่องของการเช่าเจ็ทสกี ซึ่งจากการตรวจสอบและพูดคุยพบว่าผู้ประกอบการได้มีการดำเนินการอย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นอัตราค่าเช่ารายชั่วโมง การประกันภัย และมีการควบคุมอย่างเป็นระบบ ส่งผลให้ปัญหาเกี่ยวกับเจ็ทสกีลดลง ส่วนปัญหาอื่นๆ ที่พบในภูเก็ตจะมีเรื่องของสินค้าบ้าง แต่น่าจะเป็นของกลไกตลาด ซึ่งในเมืองท่องเที่ยวราคาสินค้าจะสูงกว่าทั่วๆ ไป และจะพบในเมืองอื่นๆ ที่เป็นเมืองท่องเที่ยวเช่นกัน
“ส่วนการดูแลรักษาความปลอดภัยทางตำรวจท่องเที่ยวก็ได้มีการทำงานร่วมกับทั้งตำรวจภูธรและตำรวจสอบสวนกลาง เช่น ทางหลวง กองปราบ เป็นต้น มีการดูแลความปลอดภัยอย่างต่อเนื่อง และมีการบูรณาการร่วมกันในการออกตรวจ ซึ่งที่ผ่านมาไม่พบว่ามีปัญหาอะไรรุนแรงมากนัก”
พล.ต.ต.รอย กล่าวด้วยว่า ในการสร้างความเข้ากับนักท่องเที่ยวเกี่ยวกับการใช้บริการต่างๆ นั้น ทางผู้ประกอบการก็ได้มีการทำเอกสารโปรชัวร์เป็นภาษาต่างๆ เช่น อังกฤษ รัสเซีย เป็นต้น ซึ่งเป็นนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ที่ใช้บริการ แจกจ่ายอยู่แล้ว ส่วนของตำรวจท่องเที่ยวนั้นก็จะได้ดำเนินการในเรื่องของการทำประชาสัมพันธ์เชิงรุก โดยเฉพาะโรงแรมและบริษัททัวร์ต่างๆ
ซึ่งส่วนหนึ่งได้ดำเนินการอยู่แล้ว แต่จะเพิ่มข้อมูลให้มากขึ้น เช่น การทำประกัน การตรวจสอบรายละเอียดต่างๆ ก่อนการใช้บริการ นอกจากนี้ยังมีการบรรจุข้อมูลที่เป็นประโยชน์ไว้ในเวปไซด์ของตำรวจท่องเที่ยวด้วย รวมถึงการทำแอฟพิเคชั่นเพื่อให้นักท่องเที่ยวได้ตรวจสอบข้อมูลและแจ้งข้อมูล ปัญหาอุปสรรคต่างๆ เพื่อทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้นำไปแก้ไขปรับปรุง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น