จำหน่ายอุปกรณ์แต่งรถ

วันจันทร์ที่ 11 มีนาคม พ.ศ. 2556

ที่ปรึกษา รมว.สาธารณสุข ตรวจเยี่ยมรพ.วชิระภูเก็ต



เมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2556 ที่โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต นายพสิษฐ์ ศักดาณรงค์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมคณะ ตรวจเยี่ยมความพร้อมของโรงพยาบาลวชิระภูเก็ต เพื่อรับมือชาวต่างชาติที่จะเข้ามาทำงานและท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นหลังเข้าสู่ เออีซี สร้างความเชื่อมั่นคุณภาพและความปลอดภัยบริการสุขภาพ โดยมีนายแพทย์เจษฎา จงไพบูลย์พัฒนะ ผอ.รพ.วชิระภูเก็ต นายแพทย์ศิริชัย ศิลปอาชา รองผอ.รพ.วชิระภูเก็ต และเจ้าหน้าที่ให้การต้อนรับ 


นายพสิษฐ์ ศักดาณรงค์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวภายหลังตรวจเยี่ยมโรงพยาบาลวชิระภูเก็ตว่า จังหวัดภูเก็ตเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมของทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ในปี 2554 ที่ผ่านมา มีนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกเกือบ 10 ล้านคน เพิ่มจากปี 2553 ถึงร้อยละ 73 สร้างรายได้เข้าประเทศได้กว่า 188,822 ล้านบาท ทำให้ภูเก็ตเป็นแหล่งเศรษฐกิจ คาดว่าขณะนี้มีประชากรอาศัยอยู่ในจังหวัดประมาณ 1 ล้านคน ในจำนวนนี้เป็นประชากรตามทะเบียนราษฎร 352,998 คน เป็นคนต่างจังหวัดที่เข้าไปทำงานประมาณ 103,895 คน และต่างด้าว 500,000 คน 


“เมื่อประเทศไทยเข้าสู่เออีซีในปี 2558 คาดว่าจังหวัดภูเก็ตจะต้องรองรับนักท่องเที่ยวจากประเทศเพื่อนบ้านอาเซียนเพิ่มขึ้นอีกจำนวนมาก เพราะความสะดวกในการเดินทางเข้า – ออกประเทศ และความมีชื่อเสียงด้านการท่องเที่ยวระดับโลกของภูเก็ต จึงจำเป็นต้องเตรียมด้านบริการสุขภาพให้พร้อม โดยในระหว่างวันที่ 11-13 มีนาคม 2556 จะลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมหน่วยงานด้านสาธารณสุขในจังหวัดภูเก็ต ทั้งโรงพยาบาลภาครัฐและเอกชน รวมทั้งสถานประกอบการสปา เพื่อดูความพร้อมในการรับมือกับนักท่องเที่ยวและแรงงานในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวที่จะเพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดดเช่นกัน รวมทั้งปัญหาอุปสรรคและสิ่งที่พื้นที่ต้องการสนับสนุนจากส่วนกลาง หากทุกภาคส่วนมีความพร้อมก็จะเป็นประโยชน์ต่อชาวภูเก็ตต่อไป” นายพสิษฐ์ กล่าว 


ขณะที่นายแพทย์เจษฎา ฉายคุณรัฐ สาธารณสุขนิเทศก์เครือข่ายบริการที่ 11 กล่าวเพิ่มเติมว่า กระทรวงสาธารณสุขมีนโยบายพัฒนาสถานบริการสุขภาพทุกระดับเพื่อรับการเข้าสู่เออีซี โดยมีจุดเน้นในพื้นที่ที่เป็นแหล่งท่องเที่ยว ซึ่งจังหวัดภูเก็ตเป็นเป้าหมายที่ให้ความสำคัญในอันดับต้นๆ ของประเทศ โดยส่งเสริมให้โรงพยาบาลภาครัฐซึ่งมี 3 แห่ง คือ โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต โรงพยาบาลป่าตอง และโรงพยาบาลถลาง พัฒนาให้ได้ตามเกณฑ์มาตรฐานบริการระดับสากลหรือเอชเอ พร้อมทั้งพัฒนาศักยภาพของเจ้าหน้าที่ในทุกมิติควบคู่กัน ส่วนโรงพยาบาลเอกชนที่มี 3 แห่ง ได้มีการประสานความร่วมมือแลกเปลี่ยนและใช้ทรัพยากรในการให้บริการร่วมกัน ทำให้เกิดความพร้อมในภาพรวมของบริการสุขภาพ สามารถให้บริการประชาชน ให้ได้รับความสะดวก รวดเร็ว ถูกต้องตามาตรฐาน 


นอกจากนี้ กระทรวงสาธารณสุขยังได้ส่งเสริมสถานประกอบการด้านธุรกิจบริการสุขภาพ คือ สปาเพื่อสุขภาพและนวดเพื่อสุขภาพ ซึ่งทั้งจังหวัดมีประมาณ 400 แห่ง โดยพัฒนาทั้งมาตรฐานสถานที่ บุคลากร รวมทั้งการส่งเสริมเชิงธุรกิจ อันจะเป็นผลดีต่อการท่องเที่ยวและการเข้าสู่เออีซี ขณะนี้ที่ภูเก็ต มีสปาเพื่อสุขภาพที่ได้รับรองมาตรฐานแล้ว 73 แห่ง และนวดเพื่อสุขภาพได้รับการรับรองมาตรฐานแล้ว 81 แห่ง ซึ่งจะมีการพัฒนาให้ได้มาตรฐานทุกแห่ง เพื่อสร้างความเชื่อมั่นในเรื่องคุณภาพบริการและความปลอดภัยแก่ผู้ใช้บริการ นายแพทย์เจษฎากล่าว 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น